Michael Saylor ประธานบริษัท Strategy ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อใหญ่แห่ง Bitcoin ล่าสุดได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg ในประเด็นของอนาคต ตลาดคริปโตซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ภายในการสัมภาษณ์ Saylor ชี้ชัดว่าในระดับราคาปัจจุบันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เราจะเห็นราคา Bitcoin ปรับตัวลงมาเป็นตลาดหมี หรือ เข้าสู่ฤดูหนาวคริปโต ที่เคยเป็นมาก่อนหน้าในหลายวัฏจักรที่ผ่านมา และถัดจากนี้จะมีแต่ขาขึ้นอย่างเดียวใน 5-10 ปีข้างหน้า
Saylor อธิบายว่า ปัจจุบันมีบุคคลสำคัญต่างๆมากมายที่ให้การสนับสนุน Bitcoin ทั้งจากเอกชน และจากภาครัฐ เช่น Scott Bessent , Paul Atkins เป็นต้น ขณะเดียวกันทางฝั่งของธนาคารก็เริ่มมีการเสนอตัวเป็นผู้รับฝากดูแล Bitcoin กันบ้างแล้ว
ขณะเดียวกัน จะเห็นได้ว่า Bitcoin นั้นผ่านช่วงเวลาที่หวาดเสียว และยากลำบากที่สุดมาแล้วในเรื่องของการยอมรับ ซึ่งในตอนนี้ Bitcoin นั้นมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ มิหนำซ้ำหากพูดถึงเรื่อง อุปสงค์-อุปทาน ในกรณีของ Bitcoin ยิ่งชัดเจนเลยว่าทำไมขาลงจึงจะไม่เกิดขึ้นแล้ว
เขาอธิบายต่อว่า ในหนึ่งวันเหล่านักขุดสามารถขุด Bitcoin ออกมาจำหน่ายได้เพียง 450 BTC สิ่งนี้หมายความว่าในหนึ่งวันจำเป็นที่จะต้องมีเงินทุนจำนวน 50 ล้านดอลลาร์เข้ามาซื้อ Bitcoin ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้นถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปริมาณที่บริษัท Bitcoin เช่น Strategy , Metaplanet เข้าซื้อ
มิหนำซ้ำกองทุน ETFs ต่าง ๆ เช่น IBIT ของ Blackrock ก็มีการเข้าซื้อเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน และนั่นยังไม่รวมไปถึงรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ที่เริ่มให้ความสนใจใน Bitcoin ทำให้เราเห็นได้ว่าความต้องการของ Bitcoin ในตลาดนั้นมากกว่ากำลังผลิตอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมราคา Bitcoin ควรที่จะสูงขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามกลไกของตลาด
อย่างไรก็ตาม Saylor ได้กล่าวทิ้งท้ายว่าตลาดหมีที่ Bitcoin ร่วงอย่างรุนแรงอาจจะกลับมาเยือนเราอีกก็ได้ในอนาคต แต่เหตุการณ์นั้นมันคงจะเกิดขึ้นถ้า Bitcoin ได้ไปแตะ $500,000 – $1,000,000 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งราคาก็อาจจะร่วงลงมาที่ระดับราคา $200,000 กลายเป็นการยืนยันแล้วว่า Bitcoin จะไม่มีทางกลับไปเป็น “ศูนย์” แน่นอน