<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บราซิลเลิกเว้นภาษีคริปโทฯ ! นักลงทุนทุกคนเตรียมจ่าย 17.5% เริ่มมีผลทันที

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รัฐบาลบราซิลได้ออกมาตรการชั่วคราวฉบับที่ 1303 ปรับปรุงกฎเกณฑ์การเก็บภาษีจากคริปโทฯ โดยยกเลิกข้อยกเว้นภาษีเดิม และกำหนดให้ผู้ลงทุนทุกคน ไม่ว่าจะเทรดเยอะแค่ไหน ก็ต้องเสียภาษีรายได้แบบอัตราเดียวที่ 17.5% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเพิ่มรายได้จากการลงทุนทางการเงิน และเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

ก่อนหน้านี้นักลงทุนรายย่อยที่ซื้อขายคริปโทฯ ไม่เกิน 35,000 เรียลต่อเดือน จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่ตอนนี้สิทธิ์นั้นถูกยกเลิกแล้ว

ปัจจุบันใครก็ตามที่มีกำไรจากคริปโทฯ ต้องเสียภาษี 17.5% เท่ากันหมด ไม่ว่าจะกำไรเยอะหรือน้อย แทนที่ระบบเดิมที่มีการแบ่งขั้นตามปริมาณธุรกรรม ซึ่งเคยเก็บภาษีตั้งแต่ 15% จนถึง 22%

ผลของการเปลี่ยนแปลงนี้คือใครที่เคยเทรดน้อย ๆ และได้รับการยกเว้นภาษี จะต้องเริ่มเสียภาษีอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ นักลงทุนรายใหญ่ที่เคยเสียภาษีในอัตราที่สูงอาจได้รับประโยชน์จากอัตราคงที่ใหม่นี้

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการถือครองคริปโทฯ ด้วยตนเอง (self-custody) และสินทรัพย์ดิจิทัลที่ลงทุนผ่านต่างประเทศด้วย เพื่อปิดช่องโหว่ในการเลี่ยงภาษี โดยยังคงอนุญาตให้ สามารถหักการขาดทุนย้อนหลังได้สูงสุด 5 ไตรมาส ในการคำนวณภาษีรายไตรมาส

สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ นี่ถือเป็นข่าวดี เพราะจะ เสียภาษีน้อยลง จากเดิมที่กำไรเกิน 10 ล้านเรียล ต้องจ่ายภาษี 22% ตอนนี้ทุกคนเสียภาษีเท่ากันที่ 17.5% แถมระบบใหม่ยังง่ายขึ้นมาก ไม่ต้องวุ่นวายกับการคำนวณตามขั้นอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม กฎใหม่นี้ ใช้กับบุคคลธรรมดาเท่านั้น บริษัทที่ดำเนินกิจการในรูปแบบกำไรสุทธิ ยังคงต้องปฏิบัติตามระเบียบเดิม และไม่สามารถนำรายได้ที่ขาดทุนจากคริปโทฯ มาหักภาษีได้

นับตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป การหักการขาดทุนจากภาษีจะเข้มงวดขึ้นไปอีก ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องวางแผนภาษีอย่างรอบคอบมากขึ้น ทางการคาดการณ์ว่า กฎใหม่นี้จะช่วยให้การรายงานรายได้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น และเพิ่มรายได้เข้ารัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากคริปโทฯ แล้ว บราซิลยังได้ปรับกฎภาษีในด้านอื่นด้วย เช่น การลงทุนในตราสารหนี้อย่าง LCA (Letters of Agribusiness Credit) และ LCI (Letters of Real Estate Credit) ที่เคยได้รับยกเว้นภาษี ซึ่งตอนนี้จะถูกเก็บภาษี 5% จากกำไร เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดเก็บภาษีของสินทรัพย์ทางการเงินประเภทอื่น

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น หลังจากที่รัฐบาลล้มเลิกแผนขึ้นภาษี IOF (Impuesto sobre Operaciones Financieras) ที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยกระทรวงการคลังของบราซิลระบุว่า การปรับโครงสร้างภาษีใหม่นี้ จะช่วยให้รัฐบาลบรรลุเป้าหมายทางการคลังได้ โดยไม่มีข้อขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง

ขณะเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรของบราซิลก็กำลังเดินหน้าออกกฎหมาย เพื่อให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์สำรองของประเทศ โดยเสนอให้ใช้เงินสำรองสูงสุดถึง 5% มาลงทุนใน Bitcoin ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่บ่งบอกว่า บราซิลเริ่มมองคริปโทฯ เป็น เครื่องมือระดับชาติในเชิงยุทธศาสตร์ แล้วจริง ๆ

ที่มา : coincentral