สถานการณ์ในตะวันออกกลางกำลังทวีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ หลังล่าสุดผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมาประกาศคำเตือนที่ฟังแล้วน่ากังวล
เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา Ayatollah Ali Khamenei ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้ข่มขู่อิสราเอลอย่างรุนแรง โดยโพสต์ภาพลูกไฟตกลงบนเมืองโบราณ พร้อมกับภาพนักรบถือดาบที่กำลังจะบุกประตูเมือง และเขียนเป็นภาษาเปอร์เซียว่า “ในนามของไฮดาร์ผู้สูงส่ง สงครามเริ่มขึ้นแล้ว” ซึ่งเป็นการประกาศเจตนารมณ์ของอิหร่านที่ต้องการทำสงคราม
ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ของอิหร่านก็รายงานข่าวที่ฟังแล้วขนลุกว่า “คืนนี้จะเกิดเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกจะจดจำไปอีกหลายร้อยปี”
ท่ามกลางคำขู่เหล่านี้ มีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณาให้สหรัฐฯ โจมตีเตหะราน หลังจากการประชุมฉุกเฉินกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคง
สำนักข่าว The New York Times รายงานว่า ที่ปรึกษาได้เสนอ 3 แผนให้ทรัมป์พิจารณาว่า กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จะสามารถช่วยอิสราเอลทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้อย่างไร
ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Trump พยายามโน้มน้าวให้นายกรัฐมนตรี Benjamin Netanyahu ของอิสราเอล หันมาใช้แนวทางการทูตกับอิหร่าน แต่ในการประชุมกับที่ปรึกษาระดับสูงที่ Camp David เมื่อต้นเดือนนี้ เขายอมรับว่า “ผมคิดว่าเราอาจจะต้องช่วยพวกเขา” หมายถึงอิสราเอล หลังจากนั้น Trump ก็ได้รับ 3 ทางเลือกทางการทหารเพื่อช่วยอิสราเอลโจมตีภัยคุกคามนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ทางเลือกแรกที่ง่ายที่สุดคือ สหรัฐฯ จะให้ข้อมูลข่าวกรอง และส่งเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ ไปช่วยเครื่องบินรบของอิสราเอลในภารกิจทิ้งระเบิด แผนที่สองเป็นการ โจมตีอิหร่านร่วมกัน ระหว่างอเมริกาและอิสราเอล ส่วนแผนที่สามซึ่งเป็นทางเลือกที่แข็งกร้าวที่สุด คือ ปฏิบัติการทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ เต็มรูปแบบ ซึ่งจะรวมถึงการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1 และ B-2 เรือบรรทุกเครื่องบิน และ “ขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำ”
ล่าสุด เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 Stratofortress ของสหรัฐฯ จำนวน 4 ลำ ก็ถูกส่งไปประจำการที่ฐานทัพ Diego Garcia ในมหาสมุทรอินเดียเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ในระยะที่สามารถโจมตีอิหร่านได้ทันที
ขณะที่เครื่องบินรบเหล่านี้ กำลังถูกส่งไป ประธานาธิบดี Trump ยังได้เรียกร้องให้อิหร่าน “ยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข” และถึงขั้นขู่สังหารผู้นำสูงสุดอิหร่าน หลังจากที่เขาออกจากประชุม G7 ที่แคนาดาอย่างกะทันหัน เพื่อเข้าประชุมด่วนในห้อง situation room โดย Trump กล่าวว่า สหรัฐฯ รู้ว่าผู้นำสูงสุดอิหร่านหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน แต่ย้ำว่า “เราไม่ต้องการให้เขาถูกสังหาร อย่างน้อยก็ในตอนนี้”
ที่มา:dailymail