หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Sam Altman ซีอีโอแห่ง OpenAI และ Elon Musk มหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla และ SpaceX เคยเป็น “พี่น้องร่วมรบ” กันมาก่อน ทั้งสองเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 ด้วยความฝันจะสร้าง AI ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ แต่หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับเปลี่ยนแปลงไป จากมิตรกลายเป็นศัตรู
ล่าสุดในงานประชุมของ Y Combinator เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา Sam Altman ได้ออกมาเปิดใจว่า Elon Musk คือฮีโร่ในดวงใจของเขา แต่กลับเป็นชายคนนี้นี่เอง ที่เคยส่งอีเมลมาวิจารณ์สิ่งที่เขาทุ่มเททำมันทั้งชีวิตว่า “มีโอกาสสำเร็จ 0%” หรือสิ่งที่พวกนายทำมันห่วยและไม่มีทางเวิร์ก ตอนนั้นคือ ช่วงที่ OpenAI เพิ่งเริ่มพัฒนา GPT-1 และยังไม่มีใครเชื่อว่า AI จะฉลาดเหมือนมนุษย์ได้จริง
วินาทีนั้น Sam ยอมรับว่าเขา “ใจแป้ว” และคิดว่า “ถ้าเขาพูดถูกล่ะ?” คำพูดจากคนที่เป็นดั่งฮีโร่ในดวงใจ กลับกลายเป็นการสบประมาทอย่างรุนแรง แต่แทนที่จะยอมแพ้ เขากลับเดินหน้าต่อ โดยกล่าวว่า บทเรียนที่เขาได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นั้นคือ “ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ ปัดฝุ่น แล้วไปต่อ” นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ OpenAI ยังคงก้าวเดินต่อไปได้
การก่อตั้ง OpenAI ท่ามกลางความไม่แน่นอน
ในขณะที่ Garry Tan ผู้ดำเนินรายการ ถามถึงจุดเปลี่ยนเล็กๆ ที่ส่งผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อ OpenAI นาย Sam Altman ได้ย้อนความหลังไปถึงช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดย Altman กล่าวว่า “แค่การตัดสินใจ ‘เริ่มทำ’ ก็เป็นเรื่องใหญ่มากแล้ว เราเกือบจะไม่ได้ก่อตั้ง OpenAI ด้วยซ้ำ”
ในปี 2015 แนวคิดเรื่อง AGI (Artificial General Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ ในตอนนั้นฟังดูบ้าบอมาก AGI มันจึงเหมือนความเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ
แม้จะมองเห็นความเป็นไปได้ แต่ DeepMind ก็ดูนำหน้าไปไกลเกินกว่าจะตามทัน การตัดสินใจในปี 2015 จึงเป็นเหมือนการโยนหัวก้อย Altman เน้นย้ำว่า “มันต้องอาศัยกลุ่มคนที่เป็นหัวกะทิจริงๆ ที่นั่งลงในห้องประชุม มองตากัน แล้วพูดว่า ‘เอาล่ะ เรามาทำสิ่งนี้กัน’ ช่วงเวลาแบบนั้นสำคัญมาก
บรรยากาศของวงการ AI เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง Altman เล่าว่า “ตอนนั้นยังไม่มี Language Model ที่ใช้งานได้จริงด้วยซ้ำ เรายังเล่นวิดีโอเกมกันอยู่ มีแขนหุ่นยนต์เล็กๆ ที่แทบจะบิดรูบิคไม่สำเร็จ ไม่มีไอเดียเรื่องผลิตภัณฑ์ ไม่มีรายได้ และไม่รู้ว่าจะหารายได้มาได้อย่างไร
ChatGPT ในตอนนั้นมันดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ดีๆ นี่เอง การประกาศเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อย่าง AGI ทำให้คน 99% มองว่าพวกเขาบ้า แต่กลับดึงดูดคน 1% ที่เป็นคนเก่งระดับหัวกะทิให้มารวมตัวกันได้ “เมื่อคุณทำในสิ่งที่คนอื่นทำกันหมด มันยากที่จะดึงคนเก่งมารวมกัน แต่ถ้าคุณทำในสิ่งที่เป็นหนึ่งเดียวในโลก คุณจะได้เปรียบอย่างมาก” Altman กล่าว
นอกจากนี้ Sam Altman ยังได้พูดถึงอนาคตของ OpenAI และให้คำแนะนำผู้ประกอบการในยุค AI ในงานดังกล่าวอีกด้วย โดยถ้าใครอยากรู้ก็สามารถไปรับชมได้ที่ช่องยูทูป Ycombinator ด้านล่างนี้ต่อได้เลย

