<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ไขข้อสงสัย ! ใช้ VPN เข้าถึงแพลตฟอร์มเว็บเทรดคริปโตที่ถูกปิดกั้นในไทย ผิดกฎหมายไหม ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ก่อนหน้านี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ของไทยได้ออกแถลงการณ์เตือนนักลงทุนและประชาชนทั่วไป ให้รีบถอนหรือโอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากเว็บเทรดคริปโตที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น Bybit, 1000X, CoinEx, OKX และ XT.COM ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2568 เพราะหลังจากนั้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์เหล่านี้ตามกฎหมายที่เพิ่งประกาศใช้

เมื่อเว็บเทรดเจ้าดังถูกสั่งบล็อก นักลงทุนหลายคนก็เริ่มหาทาง “แก้เกม” เพื่อไม่ให้การเทรดยุ่งยากหรือสะดุด หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือ การใช้ VPN หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงเว็บที่ถูกบล็อกได้เหมือนกับว่าใช้งานจากต่างประเทศ บางคนก็ใช้ VPN เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว บางคนก็ใช้เพื่อให้ยังสามารถเทรดบนแพลตฟอร์มเดิมได้ต่อไป

แต่คำถามที่หลายคนสงสัยก็คือ การใช้ VPN แบบนี้ “ผิดกฎหมายหรือเปล่า?” ซึ่งคำตอบก็คือ ตัว VPN เอง “ไม่ได้ผิดกฎหมาย” ในประเทศไทย ตราบใดที่คุณใช้เพื่อจุดประสงค์ทั่วไป เช่น การปกป้องข้อมูลขณะใช้งาน Wi-Fi สาธารณะ หรือเข้าเว็บที่ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร

แต่ปัญหาอยู่ที่ “จุดประสงค์” ในการใช้ ถ้าใช้ VPN เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์หรือบริการที่ถูกปิดกั้นจากภาครัฐ เนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ทำสิ่งผิดกฎหมาย หรือใช้เพื่อหลบเลี่ยงข้อห้ามบางอย่างในประเทศ เช่น ดาวน์โหลดไฟล์เถื่อน ดูคอนเทนต์ที่ถูกห้ามการเข้าเว็บที่ไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล แบบนี้อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตามประเทศนั้นๆ  ได้

พูดง่าย ๆ คือ ตัว VPN ไม่ผิด แต่สิ่งที่คุณเอา VPN ไปใช้ “ทำ” นั่นแหละ ที่อาจจะพาไปมีปัญหาได้ในอนาคต

ยิ่งไปกว่านั้น การที่นักลงทุนยังฝืนใช้เว็บเทรดคริปโตที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. แม้จะต้องใช้ VPN เพื่อหลบหลีกการปิดกั้น ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่ตามมาแบบเต็ม ๆ เพราะหากวันหนึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้ปิดตัวลงหรือเกิดปัญหา เช่น ถูกแฮ็ก โดนโกง หรือถอนเงินไม่ได้ นักลงทุนอาจไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลย

ที่สำคัญคือ ก.ล.ต. ได้ออกมาเตือนล่วงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว หากยังเลือกใช้งานต่อ เท่ากับว่าต้องรับผิดชอบความเสี่ยงด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่มีสิทธิ์ไปร้องเรียนหรือฟ้องร้องกับหน่วยงานรัฐ เพราะถือว่าใช้บริการนอกเหนือขอบเขตที่กฎหมายไทยคุ้มครองไว้แล้วนั่นเอง