<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บริษัทเทคจีนยักษ์ใหญ่จี้รัฐเปิดทาง ‘Stablecoin หยวน’ ดันใช้ทั่วโลก สู้ศึก USDT และดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัท JD.com และ Ant Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Alibaba กำลังเดินหน้าเรียกร้องให้ธนาคารกลางจีนอนุญาตให้มีการออก Stablecoin ที่อ้างอิงสกุลเงิน “หยวน” ในฮ่องกง เป้าหมายหลักคือ การลดอิทธิพลของ Stablecoin สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น USDT และนำเงินหยวนเข้าสู่การแข่งขันด้านการชำระเงินดิจิทัลในระดับโลก

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ทั้ง JD.com และ Ant Group อยู่ระหว่างการหารือกับธนาคารกลางของประเทศจีน (PBOC) เพื่อขออนุมัติการออก Stablecoin ที่ผูกกับเงินหยวนนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยทั้งสองบริษัทมีแผนที่จะออก Stablecoin ที่อ้างอิงเงินดอลลาร์ฮ่องกงอยู่แล้ว เมื่อกฎระเบียบคริปโตใหม่ของฮ่องกงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ทั้งสองเชื่อว่า Stablecoin ที่อ้างอิงเงินดอลลาร์ฮ่องกงนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะการที่เงินดอลลาร์ฮ่องกงผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ไม่ส่งผลดีต่อการส่งเสริมเงินหยวนในระดับสากล ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ปักกิ่งพยายามผลักดันมาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา 

JD.com ได้ชี้แจงในการหารือภายในว่า Stablecoin เงินหยวน มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการใช้งานเงินหยวนทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อสินทรัพย์ดิจิทัลที่อ้างอิงเงินดอลลาร์ยังคงมีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบัน

ข้อมูลจาก Bank for International Settlements ระบุว่ากว่า 99% ของ Stablecoin ที่หมุนเวียนในตลาดนั้นผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้ส่งออกชาวจีนจำนวนมากเริ่มหันมาใช้ USDT ในการชำระเงินระหว่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและการควบคุมเงินทุน 

Crypto HK แพลตฟอร์ม OTC ในฮ่องกง เผยว่าปริมาณการซื้อขาย USDT ในกลุ่มลูกค้าชาวจีนเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าตั้งแต่ปี 2021 ด้าน Wang Yongli อดีตรองหัวหน้าธนาคาร Bank of China กล่าวว่า “การขยายตัวทั่วโลกของ Stablecoin สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังสร้างความท้าทายใหม่ๆ ต่อการทำให้เงินหยวนเข้าสู่ระดับสากล”

จีนกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งสำคัญในการผลักดันให้เงินหยวนก้าวขึ้นเป็นสกุลเงินระดับโลกที่แข็งแกร่งทัดเทียมดอลลาร์สหรัฐฯ หรือยูโร แม้ว่าเป้าหมายนี้จะถูกประกาศไว้อย่างชัดเจนมานานแล้ว แต่การควบคุมเงินทุนที่เข้มงวด อุปสรรคด้านนโยบาย และการแบนคริปโตเคอร์เรนซีในปี 2021 ได้กลายเป็นกำแพงสำคัญ

ตัวเลขล่าสุดสะท้อนภาพดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยส่วนแบ่งของเงินหยวนในการชำระเงินทั่วโลกในเดือนพฤษภาคมลดลงเหลือเพียง 2.89% เท่านั้น ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงครองส่วนแบ่งกว่า 48% อ้างอิงข้อมูลจาก SWIFT 

Xiao Feng ประธานเว็บเทรดคริปโต HashKey ในฮ่องกง เน้นย้ำว่า “จีนมาถึงจุดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้อีกต่อไปแล้ว”