ตลาดหุ้นฮ่องกงคึกคักเป็นพิเศษในวันอังคารนี้ โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีที่ปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า ท่ามกลางความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อนโยบายการออกใบอนุญาตสำหรับผู้ให้บริการเหรียญ Stablecoin ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้
ข้อมูลจาก Yahoo Finance ณ ช่วงเที่ยงของวันอังคาร ชี้ว่าหุ้นของ Guotai Junan International บริษัทหลักทรัพย์ของจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง ขยับตัวขึ้นถึง 18% หลังจากที่บริษัทเพิ่งได้รับอนุมัติให้เปิดบริการซื้อขายคริปโตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่หุ้นของ OSL แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ได้รับใบอนุญาตในฮ่องกง ก็พุ่งขึ้น 10% ส่วนหุ้นของ Dmall Inc. และ Victory Securities ปรับตัวสูงขึ้น 8.9% และ 9.2% ตามลำดับ
แรงซื้อที่ถาโถมเข้ามานี้ คาดว่ามาจากการที่ฮ่องกงกำลังเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่สำหรับผู้ให้บริการ Stablecoin ในวันที่ 1 สิงหาคม ภายใต้กฎใหม่นี้ ผู้ที่ต้องการออกเหรียญ Stablecoin ที่อ้างอิงกับสกุลเงินทั่วไป จะต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานการเงินของฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority) เสียก่อน
นอกจากหุ้นคริปโตที่ขยับตัวขึ้นแล้ว ผู้เล่นคนอื่น ๆ ในตลาดก็มีความเคลื่อนไหวกับข่าวนี้เช่นกัน โดย OSL ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อย ก็เพิ่งประกาศแผนเข้าซื้อกิจการ Banxa ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชำระเงินคริปโตในแคนาดาด้วยมูลค่า 62.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนก่อน ในขณะเดียวกัน Dmall Inc. บริษัทค้าปลีกดิจิทัลของจีน ก็เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากำลังเตรียมยื่นขอใบอนุญาต Stablecoin และได้เริ่มเข้าซื้อบิตคอยน์ผ่านตลาด HashKey แล้ว เช่นเดียวกับ Victory Securities ที่ได้รับอนุมัติให้เปิดบริการซื้อขายคริปโตไปตั้งแต่เดือนเมษายน
นายคริสโตเฟอร์ ฮุย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงบริการทางการเงินและธนารักษ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Ming Pao ว่า ฮ่องกงอาจเริ่มออกใบอนุญาตได้ภายในปีนี้ แต่ในช่วงแรกคาดว่าจะมีการอนุมัติใบอนุญาตเพียงไม่กี่รายเท่านั้น
การตื่นตัวในเรื่อง Stablecoin นี้ยังได้รับแรงหนุนจากความคิดเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางของจีน (PBoC) นายพาน กงเซิ่ง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งยอมรับว่า Stablecoin และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางกำลังเข้ามาปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของโลก แม้ว่ากฎเกณฑ์ในช่วงแรกจะมุ่งเน้นไปที่ Stablecoin ที่ผูกกับเงินดอลลาร์ฮ่องกง แต่ประเด็นเรื่อง Stablecoin ที่ผูกกับเงินหยวนนอกประเทศ (Offshore Yuan) ก็เหมือนจะถูกพูดถึงเช่นเดียวกัน โดยรายงานจาก Reuters ระบุว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง JD.com และ Ant Group กำลังดำเนินเรื่องให้ธนาคารกลางจีนอนุมัติเหรียญประเภทนี้
ทั้งหมดนี้ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ฮ่องกงกำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่สำคัญของโลกอย่างจริงจัง และด้วยแรงหนุนทางอ้อมจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่อง Stablecoin ที่ผูกกับเงินหยวน ยิ่งทำให้ฮ่องกงมีบทบาทที่น่าจับตามองเป็นพิเศษการแข่งขันในตลาด Stablecoin โลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ที่มา: theblock