รายงานล่าสุดจาก Bitfinex ระบุว่ากลุ่มนักลงทุนรายย่อยกำลังสะสม Bitcoin ในอัตราที่สูงกว่าปริมาณเหรียญใหม่ที่ถูกผลิตออกมาหลังการ Halving เมื่อเดือนเมษายน 2024 ข้อมูลนี้ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของอุปสงค์ในตลาดและความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน แม้ว่าราคาจะผันผวนในช่วงที่ผ่านมา แต่แรงซื้อจากกลุ่มนี้ยังคงต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์ของ Bitfinex เปิดเผยว่าการสะสมเหรียญในปัจจุบันอยู่ที่ราว 19,300 BTC ต่อเดือน ขณะที่อัตราการผลิตใหม่ของนักขุดหลัง Halving อยู่เพียง 13,400 BTC ต่อเดือน นั่นหมายความว่า ความต้องการจากรายย่อยเพียงกลุ่มเดียวก็เพียงพอที่จะดูดซับอุปทานใหม่ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนแนวโน้มตลาดในเชิงบวก แม้จะมีการปรับฐานราคาในบางช่วง แต่พฤติกรรมของผู้ซื้อกลุ่มนี้สะท้อนถึงการถือครองในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรสั้น
ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่ากลุ่มนักลงทุนที่มีบทบาทสำคัญในเทรนด์นี้คือ “Shrimp” ที่ถือครองน้อยกว่า 1 BTC “Crabs” ที่ถือระหว่าง 1–10 BTC และ “Fish” ที่ถือครองระหว่าง 10–100 BTC โดย Bitfinex ให้ความเห็นว่าพฤติกรรมการสะสมของกลุ่มเหล่านี้เกิดขึ้นแบบไม่แยแสต่อราคา หรือที่เรียกว่า “price-defying buyers” ซึ่งเป็นการเข้าซื้ออย่างสม่ำเสมอ แม้ตลาดจะมีความผันผวน
ในขณะเดียวกัน ดัชนี Fear & Greed ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ล่าสุดอยู่ที่ 73 ในโซน Greed ติดต่อกันเป็นวันที่หก แสดงถึงความมั่นใจที่ยังแข็งแกร่ง แม้ราคา Bitcoin จะมีการปรับฐานลงเล็กน้อยจากจุดสูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน ปัจจัยนี้ผนวกกับอุปทานใหม่ที่จำกัด อาจทำให้ตลาดยังคงแนวโน้มเป็นขาขึ้นในระยะกลางถึงยาว โดยเฉพาะเมื่อแรงซื้อจากรายย่อยยังคงต่อเนื่องและไม่แสดงสัญญาณชะลอตัว
ภาพ fear vs greed index จาก alternative.me
สรุปได้ว่าความต้องการซื้อ Bitcoin จากกลุ่มรายย่อยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังกลายเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ราคา Bitcoin มีเสถียรภาพและอาจปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ท่ามกลางตลาดที่ยังคงเต็มไปด้วยความผันผวนและการแข่งขันของสถาบันกับนักลงทุนรายย่อยในยุคหลัง Halving
ที่มา: coincodex