วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis จากพรรครีพับลิกัน รัฐไวโอมิง แสดงความกังวลอย่างยิ่งหลังมีรายงานข่าวบนโซเชียลมีเดียเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) ระบุว่าสหรัฐอเมริกาอาจถือครอง Bitcoin สำรองน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้มาก
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ David Bailey ประธาน Bitcoin Magazine ประกาศมอบเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์ เพื่อให้นักข่าวคนใดก็ตาม ที่สามารถเปิดเผยจำนวน Bitcoin ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ถือครองอยู่ โดยมีหลักฐานชัดเจน
Lola Leetz นักข่าวอิสระ ได้ตอบรับความท้าทายนี้ ด้วยเอกสารที่อ้างว่ามาจากสำนักงาน United States Marshalls Service เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เอกสารดังกล่าว เป็นผลมาจากการร้องขอข้อมูลภายใต้กฎหมาย Freedom of Information Act (FOIA) ในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งมีการระบุว่า Bitcoin ที่สหรัฐฯ ถือครองอยู่ มีเพียง 28,988 BTC เท่านั้น
Bailey กล่าวในโพสต์ X เมื่อวานนี้ว่า “ดูเหมือนว่าเราอาจจะรู้แล้วว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ถือครอง Bitcoin อยู่เท่าไร และมันน้อยกว่าที่คิดไว้ประมาณ 85%”
ทันทีที่ข่าวนี้แพร่สะพัด วุฒิสมาชิก Lummis ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคริปโตคนสำคัญ แสดงความตกใจกับรายงานที่ระบุว่าสหรัฐฯ ขาย Bitcoin ไปมากกว่า 80% จนเหลืออยู่แค่เพียงประมาณ 29,000 BTC เธอกล่าวเน้นย้ำว่า “หากเป็นความจริง นี่คือความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ และจะทำให้สหรัฐอเมริกาล้าหลังไปหลายปีในการแข่งขันด้าน Bitcoin”
ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม 2025 ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ประกาศจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin และคลังสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ และ David Sacks คริปโตซาร์ของทำเนียบขาว เคยประเมินว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ถือครอง Bitcoin ประมาณ 200,000 BTC แม้จะไม่มีการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิด Arkham Intelligence บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ได้บันทึกข้อมูลการถือครอง Bitcoin ของรัฐบาลสหรัฐฯ ไว้ แม้ว่าการทำธุรกรรมภายในบัญชีอาจทำให้ตัวเลขประมาณ 200,000 BTC เป็นการประมาณการที่สูงเกินจริงเล็กน้อย แต่เชื่อว่า ข้อมูล On-Chain เหล่านี้ จะสามารถบ่งชี้หลักฐานได้หากมีการขาย Bitcoin ของรัฐบาลออกไปถึง 85% จริงๆ
ปริมาณ Bitcoin ที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าของ แท้จริงแล้วมีเท่าไหร่กันแน่ ?
ความคลาดเคลื่อนของตัวเลขนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก US Marshalls ถือครอง Bitcoin ทั้งหมดที่รัฐบาล ‘ริบทรัพย์’ มา ซึ่งเป็นสมบัติของรัฐบาลโดยสมบูรณ์และสามารถจัดการได้อย่างอิสระ แต่ Bitcoin จำนวนมากที่มาจากอาชญากรคริปโตนั้นเป็นเพียงสินทรัพย์ที่ถูก ‘อายัด’ ไว้ ซึ่งยังไม่ถือเป็นสมบัติของรัฐบาล ประธานาธิบดีจึงไม่มีอำนาจในการดำเนินการใดๆ กับเหรียญเหล่านั้นในขณะที่สถานะยังไม่ชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่น หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ยังคงถือครอง Bitcoin ประมาณ 94,000 BTC จากการแฮ็ก Bitfinex ซึ่งสินทรัพย์ส่วนใหญ่เหล่านี้ อาจต้องถูกส่งคืนให้กับเจ้าหนี้ของ Bitfinex และหากเกิดขึ้นจริง จะเท่ากับเกือบครึ่งหนึ่งของ “คลังสำรอง” ของรัฐบาลที่เคยกล่าวอ้างไว้
โดยสรุปแล้ว “กองทุนสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์” ที่ประธานาธิบดี Trump เคยประกาศไว้อาจไม่เป็นไปตามที่โฆษณา FBI, DEA และหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ อาจดูแล Bitcoin จำนวนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐฯ เป็นเจ้าของทั้งหมด
ในขณะที่รายงานนี้ ทำเนียบขาวยังไม่มีแถลงการณ์ใด ๆ ต่อข้อกล่าวอ้างที่ว่าสหรัฐฯ ได้ขาย Bitcoin สำรองไปแล้วกว่าร้อยละ 85 ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ก็อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และบทบาทของสหรัฐฯ ในโลกคริปโตในระยะยาว
ที่มา:cryptonews และ beincrypto