Paul Chowles อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ National Crime Agency (NCA) ถูกตัดสินจำคุก 5 ปีครึ่ง หลังขโมย 50 BTC จากอาชญากรที่เขาเป็นผู้นำทีมสืบสวนเอง
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หน่วยงาน NCA สามารถปิดฉากเครือข่ายเว็บมืด Silk Road 2.0 ที่ถูกดำเนินการโดย Thomas White ซึ่งเป็นอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยในเมืองลิเวอร์พูล ที่ผันตัวมาเป็นผู้ค้าสารเสพติดผ่านโลกออนไลน์ โดยในขณะนั้น เจ้าหน้าที่สามารถยึด USB Drive ที่เก็บ Bitcoin จำนวน 97 BTC ได้สำเร็จ
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะภายในระยะเวลา 2 ปีหลังจากนั้น Chowles ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลฟอเรนสิกและหัวหน้าทีมสืบสวน กลับใช้ความรู้เชิงเทคนิคของตัวเองในการแอบโอน 50 BTC จาก “กระเป๋าเกษียณ” ของ White เข้ากระเป๋าตัวเองผ่านบริการ Mixing Service ชื่อ Bitcoin Fog
ในช่วงเวลาดังกล่าว Bitcoin มีมูลค่าราว 60,000 ปอนด์ แต่ปัจจุบัน 50 BTC เหล่านั้นมีมูลค่าทะลุ £4.3 ล้านปอนด์ (ราว 200 ล้านบาทไทย) ซึ่งทำให้การกระทำของเขาถูกจัดเป็น อาชญากรรมที่อาศัยเก้าอี้ราชการเป็นเครื่องมือ

สิ่งที่ทำให้คดีนี้โดดเด่นคือ Chowles ไม่ได้นำ Bitcoin ไปใช้ซื้อรถหรูหรือบ้านราคาแพง แต่กลับค่อย ๆ นำมาใช้กับค่าใช้จ่ายประจำวัน เช่น ค่าซูเปอร์มาร์เก็ต ค่าอาหาร ค่ารับเลี้ยงเด็ก และค่าซ่อมบ้าน เรียบง่ายแต่ผิดกฎหมายเต็มประตู
จนกระทั่งในปี 2022 เมื่อ White พ้นโทษและเข้าร่วมการสืบสวนทางการเงินตามกฎหมาย Proceeds of Crime Act เขาก็พบว่า BTC บางส่วนที่เคยถูกยึดได้ “หายไปอย่างลึกลับ” และจากการตรวจสอบพบว่า Bitcoin บางส่วนถูกโยงไปยังอีเมลชื่อปลอม “P Charles” ในเนเธอร์แลนด์ ที่สุดท้ายชี้กลับมาที่ Chowles เอง
เมื่อเจ้าหน้าที่บุกค้นบ้าน เขาพบหลักฐานสำคัญทั้งรหัสผ่านและสมุดจดบัญชีของ Thomas White ซุกอยู่ในโต๊ะทำงานของ Chowles เอง รวมถึงซากการทำธุรกรรมผ่าน Mixer และ Exchange ต่างประเทศ
ในชั้นศาล ผู้พิพากษา David Aubrey KC กล่าวประณามว่า “คุณคือผู้นำทีมสืบสวน แต่กลับเป็นคนที่ขโมยของกลางเสียเอง… นี่คือการทรยศต่อหน่วยงาน ต่อเพื่อนร่วมงาน และต่อสาธารณชนที่คุณสาบานว่าจะรับใช้”
การกระทำของเขาแม้ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรา แต่ผู้พิพากษาชี้ว่า “คุณทอผ้าแห่งการโกหกและซ่อนเร้นด้วยความชำนาญ” ซึ่งสร้างผลกระทบต่อทั้งกระบวนการยุติธรรมและความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัจจุบัน Chowles ถูกจำคุกและกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณายึดทรัพย์เพิ่มเติมตามกฎหมาย Proceeds of Crime Act ซึ่งหมายความว่า เขาอาจต้องคืน Bitcoin หรือทรัพย์สินที่ได้มาจาก BTC เหล่านั้นทั้งหมด
ที่มา:theguardian

