<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทรัมป์ลงนามกฎหมาย Stablecoin ฉบับแรกของรัฐบาล เปิดทางคริปโตในสหรัฐอเมริกา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาดคริปโตของสหรัฐอเมริกา กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในกฎหมายควบคุม Stablecoin ฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 กรกฎาคม) ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความคาดหวังจากทั้งวงการเงินดิจิทัลและการเมือง

โดยทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมาย Guiding and Establishing National Innovation for US Stablecoins (GENIUS) Act อย่างเป็นทางการในพิธีที่ทำเนียบขาว ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงจากวงการคริปโตจำนวนมากเข้าร่วม อาทิ Brian Armstrong (CEO จาก Coinbase), Jeremy Allaire (CEO จาก Circle), Paolo Ardoino (CEO จาก Tether) รวมถึง Cameron และ Tyler Winklevoss จาก Gemini

“ชุมชนคริปโตเคยถูกดูแคลน ถูกมองข้าม และเคยถูกนับว่าแพ้ไปแล้ว แต่วันนี้คือชัยชนะของจิตวิญญาณนักบุกเบิกของพวกคุณ” ทรัมป์กล่าวในสุนทรพจน์ระหว่างพิธี

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงบทบาทของ Paul Atkins ประธานคนใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ซึ่งระบุว่าการมีกฎหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ได้อย่างมั่นใจ

ด้าน Hester Peirce กรรมาธิการ SEC และหัวหน้าทีมเฉพาะกิจด้านคริปโต ชี้แจงว่า “กฎหมาย GENIUS Act ทำให้ Stablecoin ที่ออกโดยเอกชนไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ภายใต้การกำกับของ SEC” ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าทางการกำลังให้พื้นที่กับคริปโตในฐานะเครื่องมือชำระเงินที่มีการใช้งานจริงในตลาด

การออกกฎหมาย GENIUS Act ครั้งนี้ ยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของทรัมป์ในการรวบรวมคะแนนเสียงจากชุมชนคริปโต โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ประกาศนิรโทษกรรม Ross Ulbricht ผู้ก่อตั้ง Silk Road รวมถึงจัดตั้งทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ และแต่งตั้ง Paul Atkins ขึ้นเป็นหัวหน้า SEC แทน Gary Gensler ที่ลาออกในวันแรกของการรับตำแหน่ง

ไม่เพียงแค่ GENIUS Act เท่านั้น แต่ยังมีอีกสองร่างกฎหมายที่เพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรและกำลังเข้าสู่การพิจารณาในวุฒิสภา ได้แก่ Digital Asset Market Clarity (CLARITY) Act และ Anti-CBDC Surveillance State Act ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตบางส่วน แต่คาดว่าจะเผชิญแรงต้านในวุฒิสภา เนื่องจากข้อกังวลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจคริปโตของทรัมป์เอง

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเสียงคัดค้าน มีเดโมแครตถึง 78 คนที่ลงคะแนนสนับสนุน CLARITY Act และมากกว่า 100 คนสนับสนุน GENIUS Act แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการยอมรับคริปโตในระดับกฎหมายที่กำลังขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐอเมริกา

ที่มา: cointelegraph