สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังเดินหน้าครั้งสำคัญเพื่อยกระดับตลาดอนุพันธ์ของประเทศไทยให้ก้าวทันตลาดโลก โดยล่าสุดได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศเกี่ยวกับการกำหนดสินค้าและตัวแปรอ้างอิงเพิ่มเติมภายใต้พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ซึ่งมีสาระสำคัญที่น่าจับตาคือ การระบุถึงการเพิ่มสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นสินทรัพย์อ้างอิงในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) รวมอยู่ด้วย
ในการประชุมเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบการกำหนดสินค้าและตัวแปรอ้างอิงเพิ่มเติมภายใต้ (พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ) เพื่อให้ศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสามารถออกผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่สอดคล้องกับตลาดอนุพันธ์ในต่างประเทศและความต้องการของผู้ลงทุน มุ่งสู่การสร้างตลาดทุนที่มีคุณภาพและมีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของตลาดทุนและการคุ้มครองผู้ลงทุน รวมทั้งเพื่อให้ ก.ล.ต. สามารถติดตามและกำกับดูแลศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตลอดจนลักษณะของแบบและข้อความของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ลงทุนและตลาดทุนโดยรวม
ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงและเพิ่มเติมสินค้าและตัวแปรอ้างอิง ดังนี้
(1) ปรับปรุงคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) ให้เป็นสินค้าอ้างอิง แทนการเป็นตัวแปรอ้างอิง เพื่อให้รองรับสัญญาอนุพันธ์แบบส่งมอบได้ (Physical Delivery)
(2) ปรับปรุงสินค้าอ้างอิงจาก “พลาสติก” เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์จากก๊าซธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เพื่อให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ต้นทางด้วย
(3) เพิ่มสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) และใบรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) เป็นสินค้าอ้างอิง
(4) เพิ่มสินทรัพย์ดิจิทัล (คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัล) เป็นสินค้าอ้างอิง
(5) เพิ่มดัชนีบนสินค้าหรือกลุ่มสินค้าอ้างอิง หรือตัวแปรอ้างอิงที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ เป็นตัวแปรอ้างอิง (ไม่รวมดัชนีบนดัชนี)

