ในโลกของการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนและคาดเดายาก ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าตลาดจะเหวี่ยงไปทางไหน อินดิเคเตอร์หรือตัวชี้วัด จึงกลายเป็นอาวุธคู่ใจของนักเทรดทุกระดับ เพราะมันช่วยส่งสัญญาณให้รู้ว่าอะไร “กำลังจะมา” ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง
วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมารู้จักกับ 3 อินดิเคเตอร์ “นอกกระแส” ที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ไม่น่าเชื่อว่าพวกมันจะสามารถใช้ทำนายตลาดคริปโตได้จริง ๆ
Rolex Indicator

Rolex Indicator เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่เป็นการเทียบกราฟความเคลื่อนไหวของนาฬิกาหรู “Rolex” ในตลาดมือสอง โดยดัชนีนี้สะท้อนถึงความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับรอบวัฏจักรของตลาดการเงิน รวมถึงตลาดคริปโตซึ่งอาจใช้มันในการหาจุดสูงสุดของตลาด
นักวิเคราะห์ Pix เผยว่า ตามสถิติแล้วดัชนีดังกล่าวจะมีการขยับขึ้นตามหลังขาขึ้ของคริปโต หรือก็คือเมื่อมีคนได้กำไรจำนวนมากแล้วก็จะเริ่มนำเงินที่ได้มาจับจ่ายฟุ่มเฟือย ซึ่งตอนที่ราคาแตะจุดสูงสุดในปี 2021 ก็เป็นช่วงเดียวกับจุดพีคของตลาดคริปโต ซึ่งจากนั้นก็ร่วงลงไปตามเช่นกัน
เขากล่าวว่าปัจจุบันแม้ราคาของนาฬิกาจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น แต่เขาก็ยังไม่เห็นสัญญาณว่าตลาดขาขึ้นกำลังจะมาถึงจุดอิ่มตัวแล้วแม้หลายเหรียญจะเพิ่งทุบสถิติราคาสูงสุดใหม่ และชี้ให้เห็นว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วง “ระหว่างกลาง” ของช่วงขาขึ้นแล้ว
แต่ในตอนนี้บรรดาโพสต์อวดรวยจากเศรษฐีคริปโตหน้าใหม่ก็ยังไม่ค่อยปรากฏขึ้นในโซเชียลมีเดีย ทำให้คาดการณ์ได้ว่าขาขึ้นกำลังจะไปได้ต่อได้อีกสักระยะ
Benner Cycle

ถัดมาอาจจะเรียกว่าเป็นอินดิเคเตอร์ได้ไม่เต็มปาก แต่ตัวของมันก็เป็นทฤษฏีเก่าแก่ที่ยังคงมีคนเชื่อมั่น ซึ่งตัวของวัฏจักร Benner Cycle จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฏจักรของเศรษฐกิจและโลกการลงทุนในตลาด
หากนับตามทฤษฏีดังกล่าวจะพบว่าตลาดยังคงไม่ถึงขีดสุดจนกว่าจะเข้าช่วงปี 2026 ทำให้ตอนนี้ยังคงมีที่ว่างพอในการเติบโต ก่อนที่จะพุ่งสู่จุดสูงสุดและปรับตัวลงมาตามวัฏจักร
แต่นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยก็ยังมองว่า Benner Cycle อาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญจากการสังเกตเหตุการณ์ในอดีต เพราะมันยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับกลไกตลาดในยุคปัจจุบันได้อย่างไร ซึ่งทุกวันนี้ตลาดก็ซับซ้อนและถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยอีกมากมายที่ไม่สามารถมองเห็นจากวัฏจักรเก่าแก่นี้เพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เชื่อใน Benner Cycle แย้งว่าวัฏจักรนี้สะท้อนถึงจิตวิทยาของนักลงทุน (ความโลภและความกลัว) ที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดเสมอมา
Warren Buffett Indicator

สุดท้ายนี้ เรามาจบกันที่อินดิเคเตอร์ในตำนานที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง Warren Buffett Indicator ของคุณปู่เจ้าพ่อตลาดหุ้น ที่ใช้หลักคิดง่าย ๆ แต่ทรงพลัง นั่นคือการเอา “มูลค่าตลาดรวมของหุ้นทั้งหมด” ซึ่งสะท้อนภาพรวมของบริษัทในประเทศ ไปเทียบกับ “ขนาดของเศรษฐกิจประเทศนั้น ๆ” ที่วัดจาก GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ)
ตัวของ Buffett เคยกล่าวไว้ว่าอินดิเคเตอร์ดังกล่าวเป็น “มาตรวัดที่ดีที่สุดว่ามูลค่าหุ้นในขณะนั้นแพงหรือถูก”
สำหรับการทำงานของอินดิเคเตอร์นี้ก็เรียบง่าย คือเป็นการดูว่าตลาดหุ้นอยู่ในจุดที่มีมูลค่าสูงหรือต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าตัวเลขอัตราส่วนทะลุ 100% ก็หมายความว่าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงกำลังเตรียมเผชิญหน้ากับขาลง ซึ่งคริปโตเองก็ไม่เว้น
ปัจจุบันอินดิเคเตอร์ดังกล่าวได้ทะยานขึ้นมาแล้วถึง 212% ซึ่งตลาดคริปโตเองก็ได้ย่อตัวลงเช่นเดียวกันอย่างน่าประหลาดใจ
แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเตือนก่อนว่าอินดิเคเตอร์ทั้ง 3 ตัวที่พูดถึงไป ยังไม่สามารถให้คำตอบแบบแม่นเป๊ะ 100% ได้ เพราะในโลกของคริปโต ยังมีปัจจัยอีกเพียบที่ทำให้ราคาผันผวนแบบคาดเดายาก
ดังนั้นนักเทรดควรมองภาพรวมให้รอบด้าน อย่ารีบปักใจเชื่ออินดิเคเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป แต่ควรใช้มันเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ เพื่อให้เทรดอย่างมีสติ และเอาตัวรอดจากตลาดที่แสนจะดุเดือดนี้ให้ได้
ที่มา : Beincrypto

