เมื่อไม่นานมานี้ Strategy บริษัทที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก ได้ประกาศเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนเพิ่มเติมและนำเงินที่ได้ไปใช้ในการเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมอีกครั้ง โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมาในรูปแบบของ “หุ้นบุริมสิทธิที่มีอัตราผลตอบแทนแบบผันแปร” ซึ่งคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้สูงถึง 500 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร. อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดร.เอ็ม” เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “ติดเล่า เรื่องลงทุน” ได้แสดงความเห็นว่า การระดมทุนครั้งใหม่นี้ของ Strategy อาจไม่ราบรื่นเหมือนในอดีต
ในโพสต์ ดร.เอ็ม กล่าวว่า STRC จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสูงถึงปีละ 9% ซึ่งผันกับอัตราดอกเบี้ยกลางของเฟด ทว่าปัญหาของ Strategy คือพวกเขาไม่มีกำไรเลย Bitcoin ที่มีก็ไม่ขาย ทำให้เงินที่จะต้องเอามาจ่ายค่าปันผลจะมาจาก “เงินใหม่” ที่ได้มาจากนักลงทุนรายใหม่ในรอบถัดไป ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโมเดลธุรกิจของแชร์ลูกโซ่

ดังนั้น หากในอนาคต Strategy ไม่สามารถระดมทุนได้อีก ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เช่น ราคาของ Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรง ก็อาจถือเป็นจุดสิ้นสุดของกลยุทธ์นี้ และทำให้บริษัทเผชิญกับทางตันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ หากวันหนึ่ง Strategy ไม่สามารถระดมทุนหรือหาเงินมาชำระหนี้และจ่ายปันผลได้อีก พวกเขาอาจจำเป็นต้องเทขาย Bitcoin ที่ถืออยู่ในพอร์ตออกสู่ตลาด ซึ่งอาจกลายเป็นแรงกดดันมหาศาลต่อราคาตลาด และจุดชนวนให้เกิดภาวะโดมิโนที่นำไปสู่ตลาดขาลงครั้งใหญ่
หากสถานการณ์เลวร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็มีความเป็นไปได้ว่าวิกฤตนี้จะรุนแรงยิ่งกว่าครั้งล่มสลายของ FTX หลายเท่าตัว และอาจกลายเป็นอีกหนึ่งบทในวัฏจักรซ้ำซากของตลาดคริปโต
แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากคำทำนายของ Michael Saylor ผู้ก่อตั้ง Strategy เป็นจริง ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า Bitcoin จะมีมูลค่าสูงถึง 1,000,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ การสะสม BTC อย่างหนักของบริษัทในวันนี้ก็อาจกลายเป็นการลงทุนที่ถูกต้องในระยะยาว และวิกฤตที่หลายฝ่ายกังวลก็อาจไม่เกิดขึ้นเลย
ขณะนี้จึงไม่แปลกที่หลายคนในวงการต่างภาวนาให้การเดิมพันครั้งใหญ่นี้ของ Strategy ไม่กลายเป็นฝันร้ายที่กลับมาทำลายความเชื่อมั่นใน Bitcoin อีกครั้ง
ที่มา : Facebook

