แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีความเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้เข้าลงทุนเป็นมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน Falcon Finance เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Stablecoin การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้าง “สะพานเชื่อม” และเพิ่มสภาพคล่องระหว่าง Stablecoin สองสกุล คือ Falcon USD (USDf) และ World Liberty Financial USD (USD1) ซึ่งเป็นโทเคนที่เปิดตัวโดยแพลตฟอร์ม World Liberty Financial (WLFI) ที่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของทรัมป์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Falcon Finance ระบุว่าจะนำเงินลงทุน 10 ล้านดอลลาร์ไปใช้ในการสร้างสภาพคล่องร่วม, การทำงานร่วมกันข้ามเชน (multichain compatibility) และโครงสร้างพื้นฐานในการแปลงค่าเงินที่รวดเร็วระหว่าง USDf และ USD1 นอกจากนี้ โทเคน USD1 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับนาย Eric Trump บุตรชายของประธานาธิบดี ยังจะถูกนำมาใช้เป็นหลักประกันบนแพลตฟอร์ม Falcon Finance อีกด้วย
นาย Zak Folkman ผู้ร่วมก่อตั้ง World Liberty Financial กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้าง “โครงสร้างพื้นฐานดอลลาร์ดิจิทัลที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้น” สำหรับผู้ใช้งานทั้งในระดับรายย่อยและสถาบัน เขายังเสริมด้วยว่าโมเดลการค้ำประกันสินทรัพย์เกินมูลค่า (overcollateralized) ของ Falcon เมื่อรวมกับกรอบการทำงานที่ใช้ทุนสำรองค้ำประกันของ USD1 จะช่วยสร้างทางเลือกดอลลาร์สังเคราะห์ที่น่าเชื่อถือสำหรับการใช้งานในระดับโลก
อย่างไรก็ตาม การประกาศความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Stablecoin ทั้งสองสกุลกำลังเผชิญกับปัญหาด้านเสถียรภาพ โดยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา เหรียญ USDf ของ Falcon เพิ่งจะหลุดจากราคา 1 ดอลลาร์ลงไปอยู่ที่ 0.9783 ดอลลาร์ ก่อนจะกลับมาได้ในวันที่ 14 กรกฎาคม ขณะที่เหรียญ USD1 ของ WLFI ก็ได้หลุดจากราคา 1 ดอลลาร์เช่นกันในวันอังคารที่ผ่านมา และยังไม่สามารถกลับมาตรึงราคาได้ ณ เวลาที่รายงาน
การที่ธุรกิจคริปโตของครอบครัวทรัมป์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นนี้ ได้สร้างความกังวลให้กับนักสังเกตการณ์ในวงการว่าอาจทำให้การผ่านร่างกฎหมายคริปโตในสหรัฐฯ มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยล่าสุดนางแม็กซีน วอเตอร์ส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาวิจารณ์อย่างหนักว่าร่างกฎหมายที่พรรครีพับลิกันกำลังผลักดันนั้น “ไม่ได้จัดการกับปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภคและความมั่นคงของชาติอย่างเร่งด่วน” และยังกล่าวหาว่า “ร่างกฎหมายเหล่านี้จะทำให้สภาคองเกรสสมรู้ร่วมคิดกับการหลอกลวงทางคริปโตที่ไม่เคยมีมาก่อนของทรัมป์”
ที่มา: cointelegraph