รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเดินหน้าสู่สิ่งที่ถูกเรียกว่า “ยุคทองแห่งคริปโต (Golden Age of Crypto)” ด้วยการเตรียมออกมาตรการที่เปิดทางให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเกิดขึ้นได้ในระดับรัฐบาลกลางอย่างรวดเร็ว และยังสนับสนุนการบูรณาการเทคโนโลยี Decentralized Finance ( DeFi) เข้ากับระบบการเงินหลักของสหรัฐฯ
ตามเอกสารสรุปของ President’s Working Group on Digital Asset Markets ซึ่งจะเผยแพร่รายงานฉบับเต็มจากทำเนียบขาวภายในวันนี้ ได้มีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานกำกับดูแลหลักของสหรัฐฯ อย่าง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และ คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ทำงานร่วมกันเพื่อปิดช่องโหว่ด้านกฎระเบียบ และ “ให้ความชัดเจนต่อผู้เข้าร่วมตลาดในเรื่องการจดทะเบียน การดูแลทรัพย์สิน การซื้อขาย และการเก็บบันทึก” เพื่อสามารถเปิดทางให้เกิดการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐบาลกลางได้ทันที
รายงานยังเน้นย้ำให้ใช้กลไกอย่าง safe harbor และ regulatory sandbox เพื่อลดความล่าช้าจากระบบราชการ เปิดทางให้นวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ เข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วขึ้น และมีข้อเสนอให้กำหนดกฎเกณฑ์ด้านเงินทุนที่ชัดเจนสำหรับบริษัทคริปโต รวมถึงความโปร่งใสในการขอใบอนุญาตธนาคารหรือ master account
ในส่วนของ Stablecoin รายงานชี้ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วย “เสริมความแข็งแกร่งให้กับบทบาทของดอลลาร์สหรัฐ” และเรียกร้องให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งดำเนินการตามกรอบกฎหมาย GENIUS Act ที่ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งลงนามไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมเพื่อสร้างโครงสร้างกำกับดูแล Stablecoin ระดับรัฐบาลกลางอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้พิจารณาทบทวนแนวทางภาษีเกี่ยวกับกิจกรรมคริปโต เช่น การขุด (mining) และการ stake รวมถึงการออกคำแนะนำใหม่ ๆ เกี่ยวกับ Corporate Alternative Minimum Tax (CAMT) และการใช้คริปโตในการชำระเงินรายย่อย (de minimis receipts) เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้คริปโตจ่ายค่าสินค้าและบริการได้สะดวกขึ้น
รายงานยังยืนยันจุดยืนของรัฐบาลทรัมป์ที่ไม่สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลจากธนาคารกลาง (CBDC) และเตรียมผลักดันกฎหมาย Anti-CBDC Surveillance State Act เพื่อห้ามการออก CBDC ในสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ
แม้ในเอกสารตัวอย่างนี้ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการที่รัฐบาลกลางจะสะสม Bitcoin หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ แต่การจัดทำกรอบกฎหมายและนโยบายที่ชัดเจนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญ หลังจากที่อุตสาหกรรมคริปโตต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบมานานกว่าทศวรรษ
ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุในรายงานสรุปว่า “ด้วยการดำเนินการตามข้อเสนอเหล่านี้ ผู้กำหนดนโยบายสามารถทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำในการปฏิวัติเทคโนโลยีบล็อกเชน และก้าวเข้าสู่ยุคทองแห่งคริปโตอย่างแท้จริง”
รายงานฉบับเต็มคาดว่าจะเปิดเผยภาพรวมทั้งหมดของกลยุทธ์ด้านคริปโตของรัฐบาลสหรัฐฯ ตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่ทรัมป์ได้ลงนามไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง
ที่มา: coindesk