หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน (FCA) ของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยการ “ยกเลิก” คำสั่งห้ามที่ไม่อนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงผลิตภัณฑ์ Crypto Exchange-Traded Notes (cETNs) การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นการ “กลับลำ” อย่างสิ้นเชิงจากจุดยืนเดิมที่เคยประกาศแบนไปเมื่อเดือนมกราคม 2021
ในประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา FCA ระบุว่าบริษัทต่างๆ ในสหราชอาณาจักรจะสามารถเริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ cETN ให้แก่ผู้บริโภครายย่อยได้ในเร็วๆ นี้ โดยการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ตุลาคม ย้อนกลับไปในปี 2021 FCA ได้สั่งแบนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยให้เหตุผลถึงความผันผวนที่รุนแรงของสินทรัพย์คริปโต และการ “ขาดความจำเป็นในการลงทุนที่ถูกกฎหมาย” สำหรับผู้บริโภครายย่อย แต่ล่าสุดนาย David Geale ผู้อำนวยการฝ่ายการชำระเงินและการเงินดิจิทัลของ FCA ได้กล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่เราได้จำกัดการเข้าถึง cETN ของรายย่อย ตลาดก็ได้มีวิวัฒนาการขึ้น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้กลายเป็นกระแสหลักและเป็นที่เข้าใจกันดีขึ้น”
Crypto ETN คืออะไรและแตกต่างจาก ETF อย่างไร?
สิ่งที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจคือความแตกต่างระหว่าง Crypto ETN และ ETF โดยในขณะที่ ETF จะมีการถือครองสินทรัพย์อ้างอิงนั้นจริงๆ (เช่น Bitcoin) แต่ ETN จะไม่ได้มีการถือครองสินทรัพย์ใดๆ เลย แต่มีสถานะเป็น “ตราสารหนี้” (debt securities) ที่ออกโดยสถาบันการเงิน ซึ่งหมายความว่านักลงทุนใน ETN จะมีความเสี่ยงด้านคู่สัญญา (counterparty risk) หากผู้ออกตราสารเกิดปัญหาทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม แม้ FCA จะเปิดประตูให้กับ ETN แล้ว แต่ก็ยังคง “ยังไม่มีการตัดสินใจ” เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อนุพันธ์คริปโต (Crypto Derivatives) ซึ่งถูกสั่งแบนไปพร้อมกันในปี 2021 “FCA จะยังคงติดตามพัฒนาการของตลาดและพิจารณาแนวทางสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงต่อไป” หน่วยงานระบุ
การเปลี่ยนแปลงท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลในสหราชอาณาจักรนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ภูมิทัศน์ด้านกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกากำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมมากขึ้น โดยล่าสุด SEC ของสหรัฐฯ ก็เพิ่งจะอนุมัติให้มีการไถ่ถอนกองทุนคริปโตในรูปแบบ “In-kind” ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าหน่วยงานกำกับดูแลเริ่มปฏิบัติต่อคริปโตในฐานะสินทรัพย์ที่ถูกกฎหมายประเภทหนึ่งแล้ว การ “กลับลำ” ของ FCA ในครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำถึงแนวโน้มทั่วโลกที่สินทรัพย์ดิจิทัลกำลังถูกผนวกรวมเข้ากับระบบการเงินกระแสหลักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่มา: cointelegraph