<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จีนไม่ชอบคริปโต แต่ฮ่องกงอ้าแขนรับ! บริษัทลูก China Merchants Bank เปิดกระดานเทรดคริปโตในฮ่องกงแล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ท่ามกลางกระแสที่จีนแผ่นดินใหญ่ยังคงสั่งแบนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มงวด ก็เกิดความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่น่าจับตามอง เมื่อ CMB International Securities Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ China Merchants Bank (CMB) หนึ่งในธนาคารที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีน ได้ประกาศเปิดตัวกระดานเทรดคริปโตในฮ่องกงอย่างเป็นทางการ การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้รับใบอนุญาตผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือน (VASP) จากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง (SFC) เมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกระดานเทรดแห่งใหม่นี้จะเปิดให้นักลงทุนสามารถซื้อขายเหรียญหลักอย่าง Bitcoin (BTC), Ether (ETH) และ Tether ( USDT) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม บริการดังกล่าวยังจำกัดไว้สำหรับ “นักลงทุนมืออาชีพ” ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เท่านั้น

การเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นก้าวที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะ CMB ถือเป็นโบรกเกอร์ในเครือธนาคารจีนแห่งแรกในฮ่องกงที่ได้รับใบอนุญาตสำหรับบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลได้สำเร็จ ประกอบกับขนาดของธนาคารแม่อย่าง China Merchants Bank ซึ่งเป็นสถาบันการเงินขนาดมหึมา โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม และมีมูลค่าตลาดของหุ้นสามัญประเภท A สูงถึง 153.16 พันล้านดอลลาร์

สิ่งที่น่าสนใจคือความแตกต่างอย่างสุดขั้วระหว่างสองพื้นที่ เพราะบริการที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในฮ่องกงนี้จะถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายทันทีหากเกิดขึ้นในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของธนาคารเอง เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่ทำให้ฮ่องกงมีกฎเกณฑ์เป็นของตนเองและกำลังเร่งเครื่องก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางคริปโตในภูมิภาค ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่นั้นยังคงยืนยันนโยบายแบนการซื้อขายคริปโตมาตั้งแต่ปี 2017 และยังคงมองว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมายมาโดยตลอด

ความเคลื่อนไหวของ CMB สอดรับกับทิศทางของทางการฮ่องกงที่กำลังให้ความสำคัญกับการวางกฎระเบียบด้านคริปโตเป็นวาระเร่งด่วน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา องค์การเงินตราฮ่องกง (HKMA) เพิ่งได้สรุปกรอบการกำกับดูแลสำหรับผู้ออก Stablecoin ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งกฎระเบียบใหม่นี้มีความเข้มงวดกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้มาก จนส่งผลให้บริษัท Stablecoin ที่ดำเนินงานในฮ่องกงขาดทุนเป็นตัวเลขสองหลักทันทีในวันที่กฎมีผลบังคับใช้ ซึ่งนักวิเคราะห์ในขณะนั้นมองว่าเป็นการปรับฐานที่ดีของตลาด

กฎหมาย Stablecoin ฉบับใหม่นี้ยังได้กำหนดให้การเสนอขายหรือส่งเสริม Stablecoin ที่อ้างอิงกับสกุลเงิน fiat โดยไม่ได้รับอนุญาตแก่นักลงทุนรายย่อย ถือเป็นความผิดทางอาญา

ที่มา: cointelegraph