<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์ “แพลนบี” (PlanB) ยืนยัน ! Bitcoin ยังทรงตัวอยู่ใน “ตลาดกระทิง” ที่อาจยิงยาว 2 ปี 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา Bitcoin ร่วงดิ่งลงจากจุดสูงสุด 124,457 ดอลลาร์ ลงมาอยู่ที่ประมาณ 112,000 ดอลลาร์ในขณะที่รายงาน ซึ่งทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า ตลาดกระทิงอาจจบลงแล้วหรือไม่ แต่นักวิเคราะห์ชื่อดัง PlanB ผู้สร้างโมเดล Stock-to-Flow ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการคริปโตกลับยืนยันด้วยความมั่นใจว่า “เราอยู่คงอยู่ในตลาดกระทิง” และสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นแค่การปรับฐานตามปกติเท่านั้น

โมเดล Stock-to-Flow ชี้ชัด “ยังไม่ใช่จุดจบตลาดกระทิง”

PlanB โชว์กราฟ Bitcoin Market Cycle ที่ใช้สีเป็นตัวบ่งชี้ระยะต่างๆ ของตลาด โดยจุดสีแดงที่ปรากฏบนกราฟนี้ ในปัจจุบันยืนยันว่า Bitcoin ยังคงอยู่ในช่วงตลาดกระทิง แม้จะมีคนตั้งคำถามว่า ทำไมจุดสีแดงถึงมีมากกว่าในอดีต

คำตอบของ PlanB ชัดเจนนั่นคือ จำนวนจุดไม่สำคัญเท่ากับสัญญาณที่แท้จริงจากข้อมูล On-chain เช่น Realized Price, Coin Days Destroyed (CDD), และรูปแบบการถือครองของนักลงทุน เครื่องมือเหล่านี้ เป็นเหมือนตัวตัดสินที่บอกถึงสภาวะที่แท้จริงของตลาด ไม่ใช่แค่ดูจากราคาผิวเผิน

ที่มา:X/PlanB

นอกจากนี้ PlanB อธิบายว่า การวิ่งขึ้นของตลาดกระทิงในแต่ละวัฏจักร (Cycle) ของ Bitcoin จะมีลักษณะแตกต่างกัน ในอดีตตลาดกระทิงเคยใช้เวลาประมาณ 1 ปี และให้ผลตอบแทนสูงถึง 10-100 เท่า ส่วน Cycle ที่แล้ว ตลาดกระทิงใช้เวลาสั้นลงเหลือเพียง 7 เดือน และให้ผลตอบแทนประมาณ 6 เท่า

สำหรับ Cycle ในปัจจุบัน PlanB คาดการณ์ว่า ตลาดกระทิงอาจยาวนานถึงสองปี นั่นหมายความว่า เรายังอยู่แค่ช่วงกลางของการเดินทาง ไม่ใช่จุดจบ การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันและกองทุน ETF ที่ทำให้ตลาดมีความเสถียรมากขึ้น แต่ผลตอบแทนอาจไม่สูงแบบในอดีต

ข้อมูล On-Chain ชี้ว่า ผู้ถือเหรียญระยะสั้นกำลังเทขาย Bitcoin

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคา Bitcoin ดิ่งลงมาคือ การเทขายของนักลงทุนรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล on-chain ของ CryptoQaunt เผยให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า กลุ่มนักลงทุนระยะสั้น (Short-term Holders) ที่ถือ Bitcoin น้อยกว่าหนึ่งเดือนกำลังขาดทุนเฉลี่ยประมาณ 3.5% และตัดสินใจขายออกด้วยความหวาดกลัว

ที่มา:X/CryptoQuant

นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นประจำในตลาดคริปโต เมื่อผู้คนเข้ามาใหม่ด้วยความคาดหวังสูง แต่เมื่อเห็นราคาผันผวนก็รีบขายทิ้งไปทันที ไม่ต่างจากคนที่ซื้อหุ้นแล้วหวังผลกำไรทันที แต่พอเห็นราคาลดลงหน่อยก็ตื่นตกใจขายทิ้งไป

ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนที่ถือ Bitcoin มา 1-6 เดือนยังคงมีกำไรเฉลี่ย 4.5% และไม่ได้เทขายออกมาจำนวนมาก สิ่งนี้บอกให้เราฟังว่า คนที่มีประสบการณ์และเข้าใจตลาดมากกว่ายังคงเชื่อมั่นในแนวโน้มระยะยาว

สัญญาณบวกจากกองทุน Bitcoin ETF

สุดท้ายนี้ สัญญาณที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามคือ กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ หลังจากที่มีเงินไหลออกติดต่อกัน 6 วัน สถานการณ์ก็เปลี่ยนแปลงในวันที่ 25 สิงหาคม เมื่อมียอดเงินไหลเข้ารวมสุทธิถึง 219.1 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุน Bitcoin ETF (IBIT) ของ BlackRock นำทีมด้วยเงินไหลเข้า 65.6 ล้านดอลลาร์

การกลับมาของกระแสเงินไหลเข้าในวันนี้ เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่า นักลงทุนสถาบันยังคงเชื่อมั่นใน Bitcoin และพร้อมที่จะซื้อเพิ่มในราคาที่ลดลง เหมือนกับการที่คนรวยใช้โอกาสช่วงตลาดปรับฐานเป็นช่วงเวลาสะสมของ ไม่ใช่การขาย

สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด Bitcoin ตอนนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “การส่งต่อจากมือผู้ที่อ่อนแอไปสู่มือผู้ที่แข็งแกร่ง” นักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่เข้าใจตลาดจะขายสินทรัพย์ของพวกเขาออกไป ในขณะที่นักลงทุนที่มีประสบการณ์และสถาบันใหญ่ๆ เข้ามารับซื้อ

กลไกการทำงานของตลาดดังกล่าว จะทำให้ฐานราคาของ Bitcoin แข็งแกร่งขึ้น เพราะเหรียญจะอยู่ในมือของคนที่ไม่ตัดสินใจขายง่ายๆ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันราคาในอนาคต และเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการเติบโตในระยะยาว

ที่มา:coinrepublic