<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดร.เอ็ม เปิดใจเล่าเส้นทางสู่หายนะทางการเงินในวัย 23 ปี บทเรียนครั้งใหญ่สู่การพลิกชีวิต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การลงทุนไม่ใช่เพียงเรื่องการแสวงหาผลกำไร แต่คือ เส้นทางที่เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต ความโลภ ความกลัว และความผิดพลาดที่ทุกคนต้องเจอเอง จนกว่าจะเข้าใจความจริงนี้ได้เต็มที่ เรื่องราวของ ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ดร.เอ็ม” ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษาแพลตฟอร์ม DeFi อย่าง FWX อาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเจ้าของเพจ “ติดเล่า เรื่องลงทุน” ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนให้เห็นบทเรียนนี้อย่างชัดเจน

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ดร.เอ็ม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าเรื่องราวในอดีต ช่วงวัย 23 ปี ที่ต้องเผชิญกับ “การหมดตัว” จากการเทรด ซึ่งกลายเป็นบทเรียนราคาแพง ที่เปลี่ยนวิธีคิดด้านการลงทุนของเขาไปตลอดชีวิต

ดร.เอ็ม เล่าว่า วันหนึ่งระหว่างนั่งทานข้าวกับรุ่นพี่ที่นับถือ ได้คุยกันถึงเรื่องการควบคุมความโลภและความกลัว รวมถึงการไม่ Oversizing หรือการเปิดออร์เดอร์ใหญ่เกินกำลัง สุดท้ายคำตอบก็คือ ไม่มีใครเลี่ยงได้ ทุกคนต้องผ่านจุดที่ “โลภมาก ๆ และกลัวมากๆ ” เจ็บซ้ำๆ จนกว่าจะ “เข็ด” และค่อยๆ เรียนรู้การจัดการขนาดพอร์ตที่เหมาะสมกับตัวเอง

เส้นทางการเงินของดร.เอ็ม เริ่มต้นตั้งแต่วัยรุ่น หลังจบ ม.6 เขาเลิกขอเงินที่บ้าน ทำงานพิเศษสอนหนังสือเกือบทุกวัน รวมถึงวันเสาร์ อาทิตย์ ที่สอนตั้งแต่ 8 โมงเช้า ต่อเนื่องจนถึงเย็น ควบคู่กับการได้รับทุนการศึกษาบางส่วนจากรัฐบาล โดยเก็บเงินด้วยบัญชีปลอดภาษี 25 เดือน อย่างมีวินัย จนเริ่มลงทุนจริงจังตั้งแต่อายุ 20 ปี ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ช่วงแรกก็เหมือนนักลงทุนหลายๆ คน พยายามหาสูตรสำเร็จ อ่านหนังสือเทรดทุกเล่มที่หาได้ ผ่านทั้งกำไรและขาดทุน แล้วก็เริ่มเห็นความสำเร็จในระดับหนึ่ง

จนเรียนจบปริญญาตรี และได้ทุนเรียนต่อทั้งที่ลอนดอน และเรียนต่อในจุฬาฯ ซึ่งเป็นช่วงที่เขาเริ่มมั่นใจกับการเทรดแบบ Technical และก้าวเข้าสู่ตลาด Forex อย่างเต็มตัว โดยในบัญชี Demo ดร.เอ็ม เคยทำกำไรพุ่ง ได้เงินเยอะมากๆ พอร์ตโตหลายเท่า จนเกิดความโลภ ที่พาเข้าสู่การเทรดเงินจริง และนั่นก็คือจุดหักเห

ครั้งแรกที่ ดร.เอ็ม ถูกล้างพอร์ต  (Liquidated) ดร.เอ็มกำลังขับรถกลับบ้านจากมหาวิทยาลัย เงินเก็บหลักแสนที่ทำงานพิเศษเก็บสะสมมาหลายปี “หายไปในพริบตา” สำหรับคนวัย 23 มันคือ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ณ ตอนนั้น ตอนจอดรถหน้าบ้าน เขาถึงกับตัวชา และถามตัวเองว่า “เราทำอะไรลงไป”

แม้หลังจากนั้นจะยังมีอีกหลายครั้งที่ ดร.เอ็ม  ขาดทุนหนัก แต่ทุกครั้งกลับกลายเป็นบทเรียนที่ทำให้เข้าใจความจริงของตลาดมากขึ้น  ความโลภเกินไปและการ Oversizing คือ ทางลัดสู่จุดจบเสมอ และการล้มเหลวในวันที่ยังมีเงินไม่มาก อาจถือเป็นโชคดี เพราะมันคือการ “ซื้อบทเรียน” ที่ราคาไม่แพงจนเกินไป

จากประสบการณ์นั้น ดร.เอ็ม จึงแนะนำกับเด็กรุ่นใหม่ว่า “รีบเข้าตลาดให้ไว” เพราะยังไงทุกคนก็ต้องผ่านวังวนของความโลภและความกลัวอยู่ดี แต่ถ้าได้เรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็ก ความผิดพลาดที่เจอจะ “ราคาถูกกว่ามาก” และนั่นอาจเป็นรากฐานสำคัญของการเป็นนักลงทุนที่แข็งแรงในอนาคต

ที่มา : Facebook