<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ETF  คืออะไร ? ทำไม Bitcoin ETF ถึงสามารถดันมูลค่าตลาดได้เป็นหมื่นล้าน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ETF ย่อมาจาก Exchange-Traded Fund หรือ กองทุนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ETF ก็เหมือนกับ “ตะกร้า” ที่บรรจุสินทรัพย์หลายชนิดไว้ด้วยกัน แล้วแบ่งออกเป็นหน่วยย่อย ๆ ให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ ทำให้คุณเหมือนได้ซื้อ “ของชิ้นเล็ก ๆ” จากตะกร้าใหญ่นั้นนั่นเอง

จุดเด่นของ ETF คือ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์จริง ๆ มาเก็บไว้เอง แต่สามารถลงทุนผ่าน ETF ได้แทน เช่น แทนที่จะซื้อทองคำแท่งมาเก็บไว้ในตู้เซฟ คุณก็สามารถซื้อหุ้นของ ETF ที่ลงทุนในทองคำแทนได้ ซึ่งมีความสะดวกและปลอดภัยกว่ามาก

การซื้อขาย ETF ยังทำได้ง่ายเหมือนกับการซื้อขายหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์ คุณไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีพิเศษหรือเรียนรู้เทคนิคซับซ้อนใด ๆ เพียงแค่มีบัญชีซื้อขายหุ้นปกติ คุณก็สามารถลงทุนในกองทุน ETF ได้ทันทีเมื่อตลาดเปิดทำการ

กองทุน Bitcoin ETF ที่เข้ามาปฏิวัติวงการคริปโต

กองทุน Bitcoin ETF คือ กองทุนที่ถือครอง Bitcoin จริง ๆ แล้วนำมาแบ่งขายเป็นหุ้นให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้ ทำให้ผู้ที่สนใจลงทุน Bitcoin ไม่ต้องยุ่งยากกับการเปิดบัญชีในตลาดแลกเปลี่ยนคริปโต, ไม่ต้องเรียนรู้วิธีการเก็บ Bitcoin ในกระเป๋าดิจิทัล หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกต่อไป แต่สามารถลงทุนใน Bitcoin ผ่านระบบหลักทรัพย์ที่คุ้นเคยได้

การเกิดขึ้นของกองทุน Spot Bitcoin ETF ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Bitcoin สามารถเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนขนาดใหญ่ที่เคยลังเลหรือไม่กล้าลงทุนใน Bitcoin โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นกองทุนบำนาญ, กองทุนรวม, สถาบันการเงิน หรือแม้แต่นักลงทุนรายย่อยที่ต้องการความสะดวกสบาย

กองทุน Bitcoin ETF รุ่นแรก ๆ ที่ได้รับอนุมัติในสหรัฐอเมริกาเป็นแบบ “Spot ETF” ซึ่งหมายความว่า กองทุนเหล่านี้ ถือครอง Bitcoin จริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่อนุพันธ์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทำให้ราคาของกองทุน Spot Bitcoin ETF เคลื่อนไหวตามราคา Bitcoin จริงในตลาดอย่างใกล้ชิด

 Spot Bitcoin ETF กับเม็ดเงินลงทุนมหาศาล

เมื่อ Bitcoin ETF เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ก็มีเงินลงทุนจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่ตลาดทันทีในสัปดาห์แรก ๆ ซึ่งเหตุผลง่าย ๆ เป็นเพราะ มีกลุ่มนักลงทุนขนาดใหญ่ที่รอคอยโอกาสนี้มานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกองทุนบำนาญของภาครัฐ,กองทุนรวมขนาดใหญ่ และธนาคารเพื่อการลงทุน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถซื้อ Bitcoin ได้โดยตรง แต่ตอนนี้สามารถลงทุนผ่านกองทุน ETF ได้แล้ว

แรงซื้อนี้ไม่ได้มาจากการเก็งกำไรระยะสั้น แต่เป็นการลงทุนระยะยาวจากสถาบันขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนมหาศาลในมือ เมื่อพวกเขาจัดสรรเงินลงทุนแม้เพียง 1-5% มายัง Bitcoin นั่น ก็หมายถึงเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่ไหลเข้าสู่ตลาดแล้ว

สิ่งสำคัญคือ เงินที่ไหลเข้ามาผ่านกองทุน ETF เป็นเงินสดจริง ๆ ไม่ใช่เงินจากการใช้เลเวอเรจหรือการเก็งกำไรระยะสั้น เพราะสถาบันเหล่านี้ มักจะถือครองสินทรัพย์ในระยะยาว ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานราคาที่แข็งแกร่งให้กับ Bitcoin ได้ในที่สุด

กลไกในการซื้อ Bitcoin ETF 

เมื่อนักลงทุนตัดสินใจซื้อ Bitcoin ETF บริษัทจัดการกองทุนจะต้องเข้าไปซื้อ Bitcoin จริง ๆ มาเก็บไว้ เพื่อรองรับจำนวนหุ้น ETF ที่ขายออกไป โดยทั่วไปแล้วอัตราส่วนจะอยู่ที่ประมาณ 1 หุ้น ETF ต่อ 0.001 Bitcoin

ด้วยกลไกนี้ ยิ่งมีผู้ซื้อกองทุน ETF มากเท่าไหร่ บริษัทก็ยิ่งต้องซื้อ Bitcoin จริง ๆ มาเก็บไว้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการมีกองทุน Bitcoin ETF ทำให้เกิดแรงซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง เพราะทุกครั้งที่มีเงินลงทุนไหลเข้า กองทุนก็จะนำเงินเหล่านั้นไปซื้อ Bitcoin จริงๆ ในตลาดทันที

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อสถาบันการเงินขนาดใหญ่เริ่มถือครอง Bitcoin ผ่านกองทุน ETF  ก็มักจะไม่ขายออกได้ง่าย ๆ เนื่องจาก Bitcoin กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว ทำให้ Bitcoin จำนวนมากถูก “ล็อก” ไว้ในระบบของกองทุน ETF ส่งผลให้อุปทานในตลาดลดลง และช่วยหนุนให้ราคาแข็งแกร่งขึ้นในระยะยาว

กองทุน Bitcoin ETF ที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin และตลาด

การเปิดตัว Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงต้นปี 2024 ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 40,000 ดอลลาร์ พุ่งไปแตะ 73,000 ดอลลาร์ ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน โดยมีเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาผ่านกองทุน ETF ในช่วงแรกมากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับสินทรัพย์ชนิดใดมาก่อน

ซึ่งผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin เท่านั้น แต่การมี Bitcoin ETF ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวม ทำให้นักลงทุนสถาบันที่เคยลังเลเริ่มพิจารณาจัดสรรเงินลงทุน 

นอกจากนี้ การไหลเข้ามาของเงินทุนจากสถาบัน ยังช่วยลดความผันผวนของราคา Bitcoin ลง เนื่องจากมีฐานนักลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มนักเก็งกำไรหรือนักลงทุนรายย่อยที่อาจซื้อขายบ่อยๆ

อนาคตของ Bitcoin ETF

ปัจจุบันกองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มีสินทรัพย์รวมกันมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ และยังมีเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกก็กำลังพิจารณาอนุมัติกองทุน Bitcoin ETF ในประเทศของตนเองเช่นกัน

ผลกระทบในระยะยาวคือ Bitcoin จะกลายเป็นสินทรัพย์หลักที่ถูกรวมไว้ในพอร์ตการลงทุนของสถาบันต่าง ๆ มากขึ้น เหมือนกับทองคำหรือพันธบัตรรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ราคาของ Bitcoin มีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ก็อาจเติบโตช้าลง เมื่อเทียบกับช่วงที่เคยมีความผันผวนสูงในอดีต

โดยกองทุน Bitcoin ETF ได้ทำหน้าที่เป็นประตูเชื่อมต่อระหว่างโลกคริปโตและโลกการเงินแบบดั้งเดิม ทำให้คริปโตเคอร์เรนซีไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ หรือมีความเสี่ยงมากเกินไปอีกต่อไป แต่กลายเป็นทางเลือกการลงทุนที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

สรุป

กองทุน Bitcoin ETF ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั่วไป แต่เป็นสะพานสำคัญที่เชื่อมต่อโลกคริปโตเข้ากับระบบการเงินแบบดั้งเดิม การที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่สามารถลงทุนใน Bitcoin ได้อย่างถูกกฎหมายและสะดวกสบาย ทำให้เงินลงทุนจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่ตลาด

ความสำเร็จของ Bitcoin ETF เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า คริปโตเคอร์เรนซีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินโลกอย่างถาวรแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่การเก็งกำไรชั่วคราวหรือกระแสที่มาแล้วก็ผ่านไป แต่คือการปฏิวัติที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการลงทุนและการเก็บรักษาความมั่งคั่งของผู้คนไปตลอดกาล