BofA Global Research ได้ปรับเปลี่ยนคาดการณ์ของตนเองในวันศุกร์ โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% (25 basis points) ในเดือนกันยายนและธันวาคมนี้ หลังจากรายงานการจ้างงานล่าสุดออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด
การกลับลำครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก BofA เป็นบริษัทหลักทรัพย์วอลล์สตรีทเพียงแห่งเดียวที่ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเลยในปีนี้
ตัวเลขจ้างงานเปลี่ยนเกม
ข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของการจ้างงานในสหรัฐฯ อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคม และอัตราการว่างงานได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบสี่ปี ซึ่งเป็นการยืนยันว่าสภาวะตลาดแรงงานกำลังชะลอตัวลง และยิ่งเสริมน้ำหนักให้กับเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
“รายงานการจ้างงานเดือนสิงหาคมควรจะเป็นการตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวคิดของ Fed จากการกังวลเรื่องเงินเฟ้อไปสู่การมุ่งเน้นไปที่ความอ่อนแอของตลาดแรงงาน” นักเศรษฐศาสตร์ของ BofA กล่าวในบันทึก
BofA เสริมว่า การเปลี่ยนแปลงมุมมองของพวกเขาได้รับแรงผลักดันทั้งจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอลงและจากท่าทีของประธาน Fed เจอโรม พาวเวล ที่แสดงออกในงานประชุมที่แจ็กสันโฮล
โบรกเกอร์อื่นเห็นพ้อง-อาจลดมากกว่าที่คาด?
บริษัทหลักทรัพย์ระดับโลกหลายแห่ง รวมถึง Citigroup ก็คาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนเช่นกัน
Morgan Stanley ซึ่งปัจจุบันคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 0.50% ภายในสิ้นปีนี้ ก็แสดงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า “สำหรับ Fed แล้ว ข้อมูลนี้น่าจะสอดคล้องกับการลดดอกเบี้ย 0.25% แต่มันก็เพิ่มความเสี่ยงไปในทิศทางที่จะมีการลดดอกเบี้ยถึง 0.75% ภายในสิ้นปี”
BofA ยังได้เตือนอีกว่า หากตลาดแรงงานอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญต่อไป Fed อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนตุลาคม และ “อาจจะมากกว่านั้น” ในปีหน้า สำหรับปี 2026, BofA คาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมอีก 0.75%
ที่มา: reuters

