คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และคณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเป็นการสำรวจถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนตลาดทุนให้เป็นแบบ 24/7 และการออกกฎระเบียบสำหรับตราสารอนุพันธ์คริปโต
หน่วยงานกำกับดูแลระบุในแถลงการณ์ว่า การขยายขนาดของการเงินบนบล็อกเชน (Onchain Finance) นั้นจำเป็นต้องมีสภาพแวดล้อมการซื้อขายแบบ 24/7 ในทุกประเภทสินทรัพย์
การสร้างความชัดเจนทางกฎหมายสำหรับ Event Contracts และ Perpetual Futures (สัญญาฟิวเจอร์สที่ไม่มีวันหมดอายุ) ก็เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมา อย่างไรก็ตาม หน่วยงานได้ชี้แจงว่า “การขยายเวลาการซื้อขายเพิ่มเติมอาจช่วยให้ตลาดสหรัฐฯ สอดคล้องกับความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจโลกที่เปิดทำการตลอดเวลาได้ดีขึ้น แต่อาจจะเหมาะสมกับสินทรัพย์บางประเภทมากกว่าประเภทอื่น ดังนั้นอาจจะไม่มีแนวทางที่เป็นหนึ่งเดียวสำหรับทุกผลิตภัณฑ์”

การเปลี่ยนแปลงไปสู่ตลาดการเงินที่ “เปิดตลอดเวลา” นี้จะช่วยเพิ่มความเร็วในการหมุนเวียนของเงินทุน แต่ในขณะเดียวกันก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับนักเทรด โดยจะทำให้สถานะที่ถือข้ามคืนหรือระยะยาวของพวกเขาต้องเผชิญกับผู้เล่นในตลาดจากโซนเวลาอื่น ซึ่งอาจทำให้พวกเขาถูกบังคับปิดสถานะในขณะที่กำลังนอนหลับได้
แถลงการณ์ร่วมครั้งนี้ถือเป็นการเดินหน้าตามรายงานด้านคริปโตของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งได้สรุปข้อเสนอแนะเชิงนโยบายระหว่างหน่วยงานเพื่อพัฒนากรอบการทำงานที่ครอบคลุมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล
รายงานฉบับดังกล่าวได้สั่งการให้ SEC และ CFTC จัดตั้งการกำกับดูแลร่วมกันเหนือภาคส่วนคริปโต โดยให้ CFTC มี “อำนาจที่ชัดเจน” ในการกำกับดูแลตลาดคริปโตแบบ Spot ในขณะที่ SEC จะมีขอบเขตอำนาจเหนือหลักทรัพย์ในรูปแบบโทเคน
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา CFTC ก็ได้ประกาศแนวทางสำหรับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตนอกประเทศในการให้บริการลูกค้าในสหรัฐฯ ผ่านกรอบการทำงาน Foreign Board of Trade (FBOT)
รายงานด้านคริปโตของรัฐบาลทรัมป์ในเดือนกรกฎาคมยังได้แนะนำให้มีการพัฒนาสถาปัตยกรรมที่ทนทานต่อควอนตัม (Quantum-resistant) เพื่อป้องกันโปรโตคอลการเข้ารหัสจากการโจมตีโดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่อาจทำลายมาตรฐานการเข้ารหัสในปัจจุบันได้ในอนาคต
นอกจากนี้ คณะทำงานด้านสินทรัพย์คริปโตของ SEC กำลังตรวจสอบข้อเสนอในการ “ป้องกันสินทรัพย์ดิจิทัลจากควอนตัม” ก่อนที่มาตรฐานการเข้ารหัสในปัจจุบันที่ใช้รักษาความปลอดภัยในระบบธนาคาร, การเงิน และการทหารจะถูกเจาะโดยอุปกรณ์ควอนตัม
ที่มา: SEC

