ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา อารมณ์ของนักลงทุนได้แปรเปลี่ยนจากโหมดโลภ มาถึงจุดเป็นกลาง และกลัว เนื่องจากราคาของคริปโตหลายตัวต่างปรับฐานกันอย่างรุนแรงต้อนรับเดือน “กันยาทมิฬ” ทว่านักวิเคราะห์กลับระบุว่าในขณะนี้ความกลัวเหล่านั้นกำลังจะจางหายไปในไม่ช้า
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Santiment เปิดเผยว่า นับตั้งแต่การย่อตัวลงมาของราคาบิทคอยน์ นักเทรดต่างได้มีการพูดถึงข่าวแง่ลบ การเทขายและตลาดหมีกันมากขึ้น
แม้ฟังดูแย่ แต่ Santiment ชี้ว่าตลาดมักเคลื่อนไหวสวนทางกับข่าวลบ ข่าว FUD ที่ออกมาจึงเป็นสัญญาณว่า การปรับฐานครั้งใหญ่ที่หลายคนกลัวอาจไม่เกิดขึ้นจริง แม้ดัชนี Fear and Greed Index จะเข้าสู่โหมดความกลัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ตาม

พายุแห่งความกลัวที่เคยโหมกระหน่ำตลาดกำลังจะผ่านพ้นไป เพราะราคา Bitcoin ที่ฟื้นตัวขึ้นมา และแนวโน้มที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ย เริ่มชัดเจนขึ้นทุกวัน ข้อมูลล่าสุดจาก CME Fedwatch บ่งชี้ว่า Fed มีแนวโน้ม “ลดอัตราดอกเบี้ย 100%” ในการประชุม FOMC กลางเดือนนี้ ทำให้คำถามที่เหลืออยู่ตอนนี้คือจะลดเท่าไร และจะมีการลดอีกกี่ครั้งในปีนี้ ซึ่งบางสถาบันการเงินคาดว่าจะมีการลดถึงสองครั้ง
Pav Hundal นักวิเคราะห์จาก Swyftx ย้ำว่าท่าทีของ Fed ในการประชุมสัปดาห์หน้าจะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นความคึกคักของตลาด เนื่องจากตลาดได้ผ่านช่วงการปรับฐานจากข่าวการจ้างงานที่อ่อนแอมาแล้ว
ขณะเดียวกัน Charlie Sherry หัวหน้าฝ่ายการเงินของ BTC Market มองว่า ความเชื่อมั่นของนักเทรดจะกลับมาอีกครั้งเมื่อราคา Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับ 117,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง แต่เส้นทางสู่ระดับ 200,000 ดอลลาร์ยังคงอีกยาวไกลและเต็มไปด้วยความท้าทาย
อย่างไรก็ตาม เดือนกันยายนมักจะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตซบเซา นักเทรดส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่เมื่อมีสัญญาณบวกเข้ามา อารมณ์ตลาดก็สามารถพลิกผันได้ในทันที ยกเว้นว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเหมือนครั้งที่ประเด็นภาษีของทรัมป์ทำให้ตลาดคริปโตชะงักและร่วงลงอย่างรุนแรง
ปัจจุบันดัชนี Fear & Greed Index ยังคงวนเวียนอยู่ในระดับกลางที่ 49 คะแนน ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอน นักเทรดจึงยังคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าทิศทางของตลาดจะเป็นอย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้

ที่มา : Cointelegraph

