ตลาดแรงงานของสหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในภาวะที่อ่อนแอกว่าที่เคยประเมินไว้อย่างมหาศาล หลังจากรายงานเบื้องต้นที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารโดยสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการจ้างงานน้อยกว่าที่เคยประมาณการไว้ถึง 911,000 ตำแหน่ง ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
หากตัวเลขนี้ได้รับการยืนยันในรายงานฉบับสุดท้ายที่จะเผยแพร่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 จะถือเป็นการปรับลดตัวเลขการจ้างงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ และเกิดขึ้นพร้อมกับข้อมูลการจ้างงานล่าสุดในเดือนสิงหาคมที่แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของตำแหน่งงานกำลังหยุดชะงัก
ตลาดแรงงาน ‘เปราะบาง’ กว่าที่คาด
“โดยรวมแล้ว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานอยู่ในสถานะที่เปราะบางกว่าที่เราคิด” ซาราห์ เฮาส์ (Sarah House) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Wells Fargo กล่าวกับ CNN “แม้รายงานนี้จะไม่ได้บอกอะไรเราอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการจ้างงานในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่มันชี้ให้เห็นว่าเรากำลังอยู่ในจุดที่อ่อนแอลงมากก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่าเดิม”
การปรับลดตัวเลขครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นในขณะที่ BLS กำลังเผชิญกับความวุ่นวายภายใน และตลาดแรงงานก็เริ่มแสดงสัญญาณร้าวฉาน เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งปลด เอริกา แมคเอนทาร์เฟอร์ กรรมาธิการของ BLS โดยกล่าวหาว่าเธอ “บิดเบือน” รายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่อ่อนแอเพื่อให้มีการปรับลดตัวเลขที่มากกว่าปกติ
ทำเนียบขาวฉะซ้ำ ‘ทรัมป์พูดถูก-BLS ล้มเหลว’
หลังจากการเปิดเผยตัวเลขประมาณการเบื้องต้นในวันอังคาร เจ้าหน้าที่รัฐบาลของทรัมป์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ BLS อย่างรุนแรง โดยอ้างว่านี่เป็นอาการของปัญหาที่ใหญ่กว่าในหน่วยงาน
แครอลีน เลวิตต์ (Karoline Leavitt) โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า การปรับลดตัวเลขครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าทรัมป์ “พูดถูก” ที่อ้างว่า “เศรษฐกิจของไบเดนคือหายนะ และ BLS ก็พังไปแล้ว”
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องการผู้นำคนใหม่เพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในข้อมูลของ BLS” เลวิตต์กล่าวในแถลงการณ์ “เช่นเดียวกับที่ BLS ทำให้คนอเมริกันผิดหวัง เจอโรม ‘ช้าไปเสมอ’ พาวเวล ก็เช่นกัน ซึ่งตอนนี้หมดข้อแก้ตัวอย่างเป็นทางการแล้วและต้องลดอัตราดอกเบี้ยเดี๋ยวนี้”
เบื้องหลังตัวเลขที่หายไป ผลพวงจากโควิดและแบบจำลองที่ล้าสมัย?
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การปรับลดตัวเลขครั้งใหญ่นี้น่าจะมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบของโรคระบาดที่ทำให้แบบจำลองทางสถิติที่เรียกว่า “birth-death model” ซึ่งใช้ในการวัดการสร้างธุรกิจและตำแหน่งงานเกิดความคลาดเคลื่อน
ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดตัวเลขครั้งใหญ่ โดยมีสาเหตุหลัก 3 ประการ: การสร้างงานในบริษัทใหม่ที่น้อยกว่าที่คาด, ข้อผิดพลาดจากการสุ่มตัวอย่างอันเนื่องมาจากอัตราการตอบแบบสำรวจที่ลดลง และการปรับปรุงข้อมูลสำหรับผู้ขอลี้ภัยและแรงงานที่ไม่มีเอกสาร
โจ บรูซูลาส (Joe Brusuelas) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ RSM เขียนในบันทึกถึงนักลงทุนว่า “นี่เป็นความท้าทายที่คล้ายคลึงกับการปรับปรุงข้อมูลในช่วงหลายปีหลังวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ แบบจำลอง birth-death ของ BLS มีปัญหาที่ทราบกันดีในการจับภาพการลดลงของการก่อตั้งธุรกิจและการล้มละลาย”
BLS ภายใต้แรงกดดัน งบประมาณถูกตัด-ขาดคนทำงาน
การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจมักถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมือง และ BLS ก็ตกเป็นเป้าโจมตี
นักเศรษฐศาสตร์และนักสถิติได้ออกมาเตือนเป็นเวลาหลายปีแล้วว่าโครงสร้างพื้นฐานทางสถิติที่สำคัญของรัฐบาลกลางกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากงบประมาณที่ลดลง, อัตราการตอบแบบสำรวจที่ต่ำ และความไว้วางใจของสาธารณชนที่ลดน้อยลง
เอริกา โกรเชน (Erica Groshen) อดีตกรรมาธิการของ BLS เปิดเผยว่า จำนวนพนักงานของ BLS ลดลงประมาณ 20% และหนึ่งในสามของตำแหน่งผู้บริหารยังคงว่างอยู่ ท่ามกลางการขาดแคลนบุคลากรและการระงับการจ้างงาน หน่วยงานต้องลดขนาดการเก็บข้อมูลลง ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ใช้ในรายงานเงินเฟ้อที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด

