<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อวสานยุค ‘เงินหาง่าย’ บริษัทคลังคริปโตกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงการแข่งขันสูง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ยุคของการสร้างรายได้ง่าย ๆ จากการซื้อคริปโตเก็บไว้ในบริษัท กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ อาจเป็นข่าวดีสำหรับตลาดคริปโตโดยรวม 

รายงานล่าสุดจาก Coinbase เปิดเผยว่า บริษัทที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเข้าสู่ช่วง “player vs player” ที่การแข่งขันจะเข้มข้นขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันราคาคริปโตให้สูงขึ้นได้

David Duong หัวหน้าฝ่ายวิจัย และ Colin Basco นักวิจัยจาก Coinbase ระบุว่า “ช่วงเวลาของการทำเงินง่าย ๆ และการรับประกันค่าพรีเมียม mNAV (อัตราส่วนมูลค่าตลาดต่อมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ) ได้สิ้นสุดลงแล้ว” 

การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า บริษัทที่ถือครองคลังสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องใช้กลยุทธ์ที่ล้ำลึกกว่าแค่การเลียนแบบกลยุทธ์ของ Strategy

คลังสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเข้าสู่การแข่งขันแบบตัวต่อตัว ซึ่งผู้ที่อยู่ในตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ที่ดีจะเติบโตได้ดี และตลาดคริปโตจะได้รับประโยชน์จากเงินทุนที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่ไหลเข้ามาจากกลุ่มบริษัทเหล่านี้ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น

นักวิเคราะห์เริ่มกังวลเรื่องตลาดที่อิ่มตัว และหลายบริษัทอาจไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว รายงานจาก NYDIG ระบุว่า บริษัทคลังสินทรัพย์คริปโตหลายแห่งมีมูลค่าลดลง แม้ในช่วงที่ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้น

David Duong  และ Colin Basco ชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่เข้ามาในตลาดก่อนอย่าง Strategy ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุด เคยได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล แต่ตอนนี้ “การแข่งขัน, ความเสี่ยงในการดำเนินงาน และข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ” ได้ทำให้ mNAV (อัตราส่วนมูลค่าตลาดต่อมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ) หดตัวลง

ความได้เปรียบที่ผู้บุกเบิกเคยได้รับได้หายไปแล้ว และตอนนี้บริษัทคลังสินทรัพย์คริปโตได้ “มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ” โดยในยุค “player-versus-player” นี้ ความสำเร็จของบริษัท จะขึ้นอยู่กับการดำเนินงาน, การสร้างความแตกต่าง และการจับจังหวะที่ดีในตลาด มากกว่าการแค่เลียนแบบกลยุทธ์ของ Strategy

อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดยุคหา “เงินง่าย” ไม่ได้หมายความว่า โอกาสหมดไป แต่เกมการลงทุนจะเปลี่ยนไป ผู้ที่อยู่รอดและเติบโตได้จะต้องมีกลยุทธ์ที่แตกต่าง, การดำเนินงานที่แม่นยำ และความสามารถในการจับจังหวะที่ดีในตลาด ซึ่งการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นนี้อาจเป็นแรงผลักดันให้มีเงินทุนคุณภาพไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : cointelegraph