Alex Thorn หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Galaxy Digital ออกมาแสดงความเห็นที่สร้างกระแสในวงการคริปโตว่า สหรัฐฯ อาจเดินหน้าจัดตั้ง “Strategic Bitcoin Reserve” หรือกองทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ ภายในปีนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทิศทางนโยบายการเงินและการลงทุนของรัฐบาลสหรัฐฯ
แนวคิด Strategic Bitcoin Reserve ถูกเปรียบเทียบกับ “Strategic Petroleum Reserve” หรือกองทุนน้ำมันสำรองของสหรัฐฯ ที่ใช้เป็นเครื่องมือด้านพลังงานและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่ในกรณีของ Bitcoin นั้น จะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การพิมพ์เงิน และการแข่งขันทางการเงินระดับโลก โดยเฉพาะกับประเทศที่กำลังสะสมทองคำและคริปโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
Thorn อธิบายว่า หากสหรัฐฯ ก้าวเข้ามาถือครอง Bitcoin อย่างเป็นระบบ จะส่งผลอย่างมหาศาลต่อการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับสถาบัน และอาจเร่งให้ประเทศอื่น ๆ ต้องหันมาพิจารณาการสร้าง “Crypto Reserve” ของตนเองเช่นกัน เพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ล้าหลังในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการเงินโลก
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าความเป็นไปได้ของการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวสูงขึ้น ภายใต้บริบทที่รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มหันมาเปิดรับคริปโตมากขึ้น ทั้งจากแรงผลักดันของภาคการเมือง รวมถึงการเข้ามาของบริษัทขนาดใหญ่ที่กำลังถือครอง Bitcoin ไว้ในงบดุล การเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนว่าคริปโตไม่ได้ถูกมองเป็นเพียงสินทรัพย์เสี่ยง แต่กลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ประเทศมหาอำนาจไม่อาจมองข้ามได้
หากสหรัฐฯ ประกาศตั้ง Strategic Bitcoin Reserve จริง นี่จะกลายเป็นสัญญาณที่สะเทือนทั้งตลาดคริปโตและระบบการเงินโลก โดยอาจผลักดันให้ Bitcoin ขึ้นไปสู่การเป็น “สินทรัพย์หลัก” อย่างเต็มตัว พร้อมทั้งสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลกต้องกำหนดท่าทีต่อคริปโตอย่างจริงจังมากขึ้น