<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitcoin ขุดยากขึ้นอีก! ความยากแตะสถิติใหม่ 142.34T สะท้อนเครือข่ายแข็งแรง แต่นักขุดต้นทุนพุ่ง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2025 ความยากในการขุด ( Bitcoin Mining Difficulty) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 4.63% แตะระดับ 142.34 ล้านล้าน (T) ที่บล็อกหมายเลข 915,264 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาล (All-Time High) การปรับตัวดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับกำลังประมวลผลเครือข่าย (Hash Rate) ที่ทะลุ 1.00 ZH/s หรือกว่า 1,000 EH/s บ่งชี้ถึงการเข้าร่วมของนักขุดที่มากขึ้นและความปลอดภัยของเครือข่ายที่แข็งแกร่งขึ้น

ข้อมูลจาก CloverPool ระบุว่า ค่าความยากในการขุดรอบถัดไปคาดว่าจะขยับขึ้นต่อเล็กน้อยที่ 142.99T หรือเพิ่มอีก 0.45% โดยยังเหลือเวลาอีกประมาณ 13 วัน 8 ชั่วโมงก่อนการปรับรอบใหม่ ซึ่งเป็นกลไกที่เกิดขึ้นทุก 2,016 บล็อก (ราวสองสัปดาห์) เพื่อรักษาเวลาการสร้างบล็อกเฉลี่ยให้อยู่ที่ 10 นาทีต่อบล็อก

หากพิจารณาจากกราฟ Difficulty Curve จะเห็นว่า ความยากในการขุดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2020 และพุ่งแรงในช่วงปี 2023–2025 ซึ่งสอดคล้องกับการเข้ามาของเครื่องขุดประสิทธิภาพสูงที่ช่วยเพิ่มพลังขุดในระบบ การแข่งขันที่รุนแรงนี้ทำให้นักขุดรายใหม่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ช่วยเสริมความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของเครือข่าย Bitcoin

ในแง่ของประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (@BobbyAnalytix) รายงานว่า บริษัทเหมืองขุดชั้นนำมีผลการดำเนินงานแตกต่างกัน โดย IREN มีประสิทธิภาพดีที่สุดที่ 15 J/TH ตามมาด้วย CleanSpark ที่ 16.1 J/TH ส่วน Riot Platforms อยู่ที่ราว 21 J/TH ความแตกต่างนี้สะท้อนว่าผู้ที่ลงทุนในฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยจะได้เปรียบในด้านต้นทุนพลังงานและสามารถแข่งขันได้ดีกว่าในสภาวะความยากที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของ Mining Difficulty ยังนำไปสู่ความกังวลด้านพลังงาน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในปี 2024 ประเมินว่า การขุด Bitcoin ใช้พลังงานราว 0.4% ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก ซึ่งเป็นแรงกดดันให้นักขุดต้องเร่งหาทางเลือกพลังงานสะอาด เช่น ฟาร์มกังหันลมในเท็กซัส หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อควบคุมต้นทุนและลดแรงเสียดทานทางสังคมเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

โดยสรุป การที่ Bitcoin Mining Difficulty ทำสถิติสูงสุดใหม่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นความท้าทายสำหรับนักขุดทั่วโลก ทั้งในด้านการแข่งขันทางเทคโนโลยีและการจัดหาพลังงานที่ยั่งยืนเพื่อความอยู่รอดในตลาดที่ดุเดือดนี้

ที่มา: @Cointelegraph