<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มหากาพย์ TikTok จบลงด้วยดี! ทรัมป์เผย ‘สี จิ้นผิง’ ไฟเขียวดีลแล้ว-เตรียมพบกันที่เกาหลีใต้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในที่สุดมหากาพย์ที่ยืดเยื้อมานานเกี่ยวกับชะตากรรมของ TikTok ในสหรัฐอเมริกาก็ได้ข้อสรุป หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้อนุมัติข้อตกลงเกี่ยวกับอนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทรัมป์ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาว่า การพูดคุยเป็นไปอย่าง “มีประสิทธิผล” และเขา “ชื่นชม” การอนุมัติข้อตกลงของสี จิ้นผิง ซึ่งมีรายงานว่าจะส่งผลให้ธุรกิจของ TikTok ในสหรัฐฯ ถูกขายให้กับกลุ่มนักลงทุนชาวอเมริกัน

เส้นทางที่ยาวนานสู่ข้อตกลง

ก่อนหน้านี้ TikTok ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท Bytedance ของจีน ถูกบีบให้ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการถูกแบน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้เลื่อนการบังคับใช้คำสั่งแบนออกไปถึงสี่ครั้งนับตั้งแต่มีการประกาศครั้งแรกในเดือนมกราคม และเมื่อต้นสัปดาห์นี้ก็ได้ขยายเส้นตายออกไปอีกครั้งจนถึงเดือนธันวาคม

ในโพสต์ล่าสุด ทรัมป์ระบุว่าทั้งสองฝ่ายได้ “สร้างความคืบหน้า” ในประเด็นทางการค้า และจะพบปะกันในการประชุมสุดยอด APEC ที่เกาหลีใต้ ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มขึ้นในปลายเดือนตุลาคมนี้ “ผมยังได้ตกลงกับประธานาธิบดีสีว่าเราจะพบกันที่การประชุมสุดยอด APEC ในเกาหลีใต้ และผมจะเดินทางไปเยือนจีนในช่วงต้นปีหน้า” ทรัมป์กล่าว

แม้ดีลจะจบ-แต่ความกังวลยังคงอยู่

แม้ว่าข้อตกลงนี้จะดูเหมือนเป็นทางออกที่ทุกฝ่ายพอใจ แต่ก็ยังคงมีเสียงแสดงความกังวลจากสมาชิกรัฐสภาของสหรัฐฯ หลายคน รวมถึงจากพรรครีพับลิกันของทรัมป์เอง โดยยังคงมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของ ByteDance กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP)

“ผมกังวลว่าข้อตกลงการให้สิทธิ์ใช้งานที่รายงานออกมาอาจเกี่ยวข้องกับการที่ TikTok ใหม่จะต้องพึ่งพาอัลกอริทึมของ ByteDance ต่อไป ซึ่งอาจทำให้ CCP ยังคงสามารถควบคุมหรือมีอิทธิพลได้” จอห์น มูลูนาร์ (John Moolenaar) ส.ส. พรรครีพับลิกันกล่าวในแถลงการณ์

ทรัมป์เปลี่ยนท่าที-มอง TikTok เป็นเครื่องมือหาเสียง

น่าสนใจว่า ในขณะที่ทรัมป์เคยเรียกร้องให้แบน TikTok ในช่วงสมัยแรกของเขา แต่ตอนนี้เขากลับเปลี่ยนท่าที และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็ได้กล่าวว่าเขามองว่าแพลตฟอร์มนี้เป็นส่วนสำคัญในแคมเปญหาเสียงของเขาในปี 2024

ที่มา: Truthsocial