Glassnode บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ได้ออกโรงเตือนว่า พฤติกรรมการเทขายทำกำไรของนักลงทุน Bitcoin ในปัจจุบันนั้น คล้ายคลึงกับช่วงจุดสูงสุดของตลาดขาขึ้นในอดีต ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ราคา Bitcoin กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของตลาดขาขึ้นรอบใหญ่
จากการวิเคราะห์ข้อมูลของ Glassnode พบว่า สถานการณ์ของ Bitcoin ในรอบนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับช่วงที่ตลาดเคยทำสถิติสูงสุด (ATH) ในปี 2015-2018 และ 2018-2022 ซึ่งในตอนนั้นราคา Bitcoin มักจะทำ ATH ภายใน 2-3 เดือนหลังจากเข้าสู่ช่วงเวลาดังกล่าว

ประสิทธิภาพของราคา Bitcoin นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของรอบ ที่มา: Glassnode
โดยในรอบปัจจุบัน Bitcoin อยู่ในช่วงที่สามารถทำกำไรต่อเนื่องมาแล้ว 273 วัน ซึ่งเป็นรองจากสถิติสูงสุดที่ 335 วัน ในรอบปี 2015-2018 เท่านั้น
นอกจากนี้ นักลงทุนที่ถือ Bitcoin มาเป็นเวลานาน (Long-Term Holders) ก็ได้เทขาย Bitcoin ทำกำไรในปริมาณที่สูงกว่าทุกรอบที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่กำลังเพิ่มขึ้นในตลาดอย่างต่อเนื่อง
Glassnode ระบุในรายงานประจำสัปดาห์ว่า “สัญญาณเหล่านี้ ย้ำอย่างชัดเจนว่า Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงท้ายของรอบขาขึ้น และในอดีตช่วงเวลาเช่นนี้ มักจะนำไปสู่การทำสถิติสูงสุดใหม่ (ATH) ภายในไม่กี่เดือน”
ถึงแม้ว่า Bitcoin จะร่วงลงเกือบ 9% หลังจากขึ้นไปแตะ 124,000 ดอลลาร์ และกระแสเงินทุนใหม่ที่ไหลเข้าก็เริ่มชะลอตัวลง แต่การปรับฐานครั้งนี้ยังไม่ถือว่ารุนแรง
การเติบโตของมูลค่าตลาดที่แท้จริง (Realized Cap) อยู่ที่เพียง 6% ต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าช่วงที่ราคาพุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์เมื่อปลายปี 2024 ที่เคยเติบโตถึง 13%
อย่างไรก็ตาม การเทขายทำกำไรในรอบนี้ก็ยังไม่มากเท่ากับช่วงที่ราคา Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ 70,000, 100,000 หรือ 122,000 ดอลลาร์ ขณะที่การขาดทุนจริงที่เกิดขึ้นยังอยู่ในระดับประมาณ 112 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ซึ่งยังถือว่าเป็นการปรับฐานตามปกติ

ข้อมูลกำไร/ขาดทุนสุทธิของ Bitcoin ที่มา: Glassnode
แม้ตลาดจะซบเซา แต่แรงซื้อยังคงอยู่ โดยข้อมูลจาก CryptoQuant เผยว่า นักลงทุนหน้าใหม่ ที่ถือ Bitcoin ไม่ถึง 1 เดือน ได้กลับมาซื้อ Bitcoin สะสมอีกครั้ง โดยเพิ่ม Bitcoin ในพอร์ตการลงทุนไปกว่า 73,702 BTC ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นักลงทุนระยะสั้น (Short-Term Holders) ก็ได้เข้าซื้อ Bitcoin อย่างหนัก โดยสะสมเพิ่มกว่า 159,098 BTC พฤติกรรมนี้มักเกิดขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้น เพื่อรับซื้อต่อจากแรงขายของนักลงทุนระยะยาว
อย่างไรก็ตาม Santiment กลับมองว่า ราคา Bitcoin ยังไม่น่าจะฟื้นตัวอย่างรุนแรงในทันที เนื่องจากพฤติกรรมการ “Buy the Dip” หรือการเข้าซื้อเมื่อราคาตกของนักลงทุนรายย่อย มักจะตามมาด้วยการที่ราคาปรับตัวลงอีกครั้ง
นอกจากนี้ การเปิด Positions Short ก็ยังไม่มากพอที่จะสร้างแรงผลักดันให้เกิด “Short Squeeze” ซึ่งเป็นการดีดตัวของราคาอย่างรุนแรงในตลาดขาขึ้น

กระแสเงินไหลออกของตลาดแลกเปลี่ยน Bitcoin ในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มา: Santiment
ในขณะเดียวกัน กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ที่ถือครอง Bitcoin ระหว่าง 10-10,000 BTC ก็ยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่ม Bitcoin ในพอร์ตกว่า 56,000 BTC ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม และปริมาณ Bitcoin ที่อยู่บนกระดานเทรดก็ลดลงกว่า 31,000 BTC ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยลดแรงขายในระยะสั้นได้
ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บังฮาซันย้ำชัด ! Bitcoin ไม่ได้ร่วง ยังยืนเหนือแสนดอลลาร์ แนะคนไทยเริ่มศึกษาตอนนี้ยังทัน
- Bitcoin ร่วงหนัก ! โอกาสทองหรือกับดัก กราฟเตือนราคาอาจดิ่งถึง $106,000
- คริปโตร่วงไม่หยุด Bitcoin หลุด $113,000 ระเบิดพอร์ตนักเทรดกว่า 400,000 ราย
ที่มา : cointelegraph

