<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Tether เตรียมปิดดีลระดมทุนยักษ์! มูลค่า $2 หมื่นล้าน จ่อดันประธานบริษัท ‘รวยแซงหน้า Warren Buffett’

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Tether กำลังเจรจาดีลระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่อาจทำให้มูลค่าบริษัทพุ่งสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งหากปิดดีลได้สำเร็จ Giancarlo Devasini ประธานบริษัท จะมีทรัพย์สินส่วนตัวถึง 2.24 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้เขารวยแซงหน้า Warren Buffett ในทันที และก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีระดับโลก ตามหลังเพียงแค่ Elon Musk, Jeff Bezos, Larry Ellison และ Mark Zuckerberg เท่านั้น

ข้อมูลนี้ถูกรายงานโดย Bloomberg Billionaires Index ซึ่งเป็นการประเมินส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของของ Devasini ในบริษัท หาก Tether สามารถระดมทุนได้สำเร็จตามเป้า โดยบริษัทมีแผนที่จะเสนอขายหุ้นประมาณ 3% ของบริษัทให้กับนักลงทุนเป็นการส่วนตัว เพื่อระดมเงินระหว่าง 1.5 หมื่นล้านถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ Tether กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

หากมูลค่าบริษัทแตะ $5 แสนล้านจริง ไม่ใช่แค่ Devasini เท่านั้นที่รวยล้นฟ้า Paolo Ardoino (CEO คนปัจจุบัน) และ Jean-Louis van der Velde (อดีต CEO) ก็จะได้รับเงินคนละประมาณ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วน Stuart Hoegner (ผู้ถือหุ้นอีกคน) จะได้กว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ นั่นหมายความว่าทั้งสี่คนจะรวยแซงหน้า Changpeng Zhao (CZ) ผู้ก่อตั้ง Binance ที่มีทรัพย์สินราว $5.2 หมื่นล้านในทันที ส่วน Jeremy Allaire ผู้ก่อตั้ง Circle (คู่แข่งของ Tether) จะตามหลังอยู่ไกลลิบ ๆ

การประเมินมูลค่าบริษัทที่สูงลิ่วนี้มีเหตุผลรองรับที่สมเหตุสมผล เพราะ USDT ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ของ Tether มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในโลกถึง 1.72 แสนล้านดอลลาร์ กำไรของบริษัทจึงพุ่งสูงขึ้นตามการเติบโตของ USDT เนื่องจากบริษัทนำเงินสำรองเหล่านี้ไปลงทุนและกินดอกเบี้ย ซึ่งในช่วง ไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัททำกำไรไปถึง 4.9 พันล้านดอลลาร์ และจ่ายเงินปันผลรวม 7.4 พันล้านดอลลาร์ ในครึ่งปีแรก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธุรกิจนี้สามารถสร้างรายได้จริง ไม่ใช่แค่คุยโว

นอกจากนี้เรื่องราวของ Giancarlo ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูน่าสนใจเข้าไปอีก เพราะพื้นเพของเขาเคยเป็นหมอศัลยกรรมพลาสติกในอิตาลี แต่ทำได้เพียง 2 ปีก็เลิก ก่อนจะหันไปขายดีวีดีและชิปคอมพิวเตอร์ จนมาลงทุนใน Bitfinex และสุดท้ายก่อตั้ง Tether ขึ้นในปี 2014 ร่วมกับ Brock Pierce และ Reeve Collins

ต่อมา Giancarlo ค่อย ๆ ซื้อหุ้นจากผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่น จนกลายเป็นเจ้าของใหญ่ และวันนี้เขากำลังจะก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในโลก

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : cryptopolitan