Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านกฎหมายควบคุมการแชทที่สหภาพยุโรป หรือ EU กำลังผลักดัน โดยเตือนว่ากฎหมายดังกล่าวเป็น ภัยคุกคามร้ายแรงต่อความเป็นส่วนตัว และอาจทำลายหลักการเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่ปกป้องผู้ใช้อยู่ในปัจจุบัน
กฎหมายฉบับนี้มีข้อกำหนดให้แพลตฟอร์มออนไลน์สแกนข้อความส่วนตัวของผู้ใช้เพื่อค้นหาเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นการ “สร้างช่องทางลับ” สำหรับหน่วยงานรัฐ แต่ในความจริงอาจเปิดช่องให้แฮ็กเกอร์ใช้เจาะระบบแทนได้
ความเป็นส่วนตัวที่ไม่เท่ากัน
Buterin ยังชี้ถึงความย้อนแย้งของเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป โดยอ้างอิงจากเอกสารร่างกฎหมายที่รั่วไหลออกมา ซึ่งรายงานโดย EU Reporter ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างรัฐมนตรีมหาดไทย หน่วยข่าวกรอง ตำรวจ และทหาร จะถูกยกเว้นจากมาตรการสแกนข้อความ ขณะที่ประชาชนทั่วไปกลับถูกบังคับใช้อย่างเข้มงวด
ปัจจุบันมี 15 ประเทศสมาชิก EU สนับสนุนข้อเสนอนี้ แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ประชากร 65% ที่จำเป็นสำหรับการอนุมัติ โดยเสียงของเยอรมนีอาจเป็นตัวชี้ขาด
เสียงเตือนจากวงการคริปโตและ Web3
Hans Rempel CEO ของ Diode และ Elisenda Fabrega จาก Brickken เตือนว่ากฎหมายนี้อาจส่งผลตรงข้าม โดยผลักผู้ใช้ไปสู่ แพลตฟอร์ม Web3 ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากกว่า
Fabrega ชี้ว่า กฎหมายดังกล่าวอาจละเมิดกฎบัตรสิทธิมนุษยชนของสหภาพยุโรป ข้อ 7 และ 8 ที่ปกป้องสิทธิการสื่อสารและข้อมูลส่วนบุคคล ขณะที่ Rempel เตือนถึงความเสี่ยงในการเกิด “การรั่วไหลของข้อมูลระดับรัฐบาล” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ผู้ใช้หนีออกจากแพลตฟอร์ม Web2 ไปสู่ระบบ Web3 ที่ไร้ศูนย์กลาง
นักวิเคราะห์บางรายมองว่าหากกฎหมายผ่านจริง อาจทำให้ตลาดดิจิทัลในสหภาพยุโรปแตกแยก และลดอิทธิพลของ EU ในการกำหนดมาตรฐานความเป็นส่วนตัวระดับโลกลง
Source: Vitalik Buterin

