วันนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่บิทคอยน์ หลังจากราคาเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างน่าทึ่งแถว $112,000 แต่คำถามคือ บิทคอยน์จะเป็น “โอกาสทองในการเข้าซื้อ” หรือเป็นเพียงแค่ “กับดัก” รอบใหม่กันแน่ ?
โดยล่าสุด JA_Maartun นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกบนบล็อกเชนผ่าน 5 เบาะแสสำคัญ เพื่อช่วยไขข้อสงสัยและตอบโจทย์ที่หลายคนกำลังเฝ้ารอว่า ราคาปัจจุบันของ Bitcoin จะเป็นโอกาสในการสะสม หรือสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงขาลงรอบใหม่
1. กองทัพ Stablecoin พร้อมจ่าย แรงซื้อขนาดมหึมารออยู่ข้างสนาม
หากคุณคิดว่าตลาดคริปโตกำลังหมดแรง ข้อมูลจาก Stablecoin Supply Ratio (SSR) กลับกำลังบอกเล่าเรื่องราวที่ตรงกันข้าม
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า SSR คือการเปรียบเทียบระหว่าง อุปทานรวมของ Stablecoin กับ มูลค่าตลาดทั้งหมดของ Bitcoin โดยตัวชี้วัดนี้สามารถสะท้อนถึงศักยภาพของ “แรงซื้อที่ยังรออยู่ข้างสนาม” และพร้อมจะไหลเข้าสู่ตลาดได้
ที่น่าสนใจคือ เมื่อเรามาดู ค่า RSI ของ SSR ล่าสุดอยู่ที่ 18.2 ซึ่งในอดีตทุกครั้งที่ค่าตัวนี้ร่วงต่ำกว่า 30 มักจะเป็นสัญญาณว่า “กำลังซื้อจากฝั่ง Stablecoin กำลังพุ่งถึงจุดสูงสุด” และสิ่งนี้ก็มักเกิดขึ้นไม่นาน ก่อนที่ตลาดจะเจอกับ จุดต่ำสุดครั้งใหญ่
2. การยอมจำนนของผู้ถือระยะสั้น (Short term holder)
นักลงทุนระยะสั้น (Short-Term Holder) ซึ่งหมายถึงกลุ่มที่ถือครอง Bitcoin ไม่เกิน 5 เดือน ล่าสุดได้มีการโอน 38,500 BTC เข้าสู่กระดานเทรดคริปโตเพื่อเตรียมขาย แม้ว่าการขายครั้งนี้จะเป็นการตัดขายขาดทุนก็ตาม
นี่ถือเป็น สัญญาณความหวาดกลัวที่สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันทางจิตวิทยาในตลาด นักลงทุนกลุ่มนี้มักจะตื่นตระหนกและยอมเทขาย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ราคาจะร่วงลงไปมากกว่านี้ ซึ่งบางครั้งก็อาจเป็นตัวเร่งสำคัญให้ตลาดเข้าสู่ “ภาวะ Capitulation” ก่อนที่จะฟื้นตัวในรอบถัดไป
3. ราคาต้นทุนของ Short term holder กลายเป็นแนวรับสำคัญ
ข้อมูลจาก Short-Term Holder Realized Price ชี้ให้เห็นว่า ราคาเฉลี่ยที่นักลงทุนกลุ่มนี้เข้าซื้อ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 109,500 ดอลลาร์ ซึ่งระดับดังกล่าวเปรียบเสมือน จุดคุ้มทุน (Break-even Point) และกลายเป็น แนวรับทางจิตวิทยาที่สำคัญ ของตลาดในเวลานี้
หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง นั่นหมายความว่าแรงขายจากนักลงทุนระยะสั้นได้ถูกดูดซับไปจนหมดแล้ว และจะกลายเป็น สัญญาณกระทิงที่แข็งแกร่ง ต่อแนวโน้มในอนาคต เพราะตามหลักการแล้ว “การยอมจำนนของนักลงทุนกลุ่มหนึ่ง มักจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนอีกกลุ่มเข้ามาคว้าโอกาส” เสมอ
4. การล้างบางของนักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจ
เมื่อเราย้ายมาดูตลาดอนุพันธ์หรือฟิวเจอร์สคริปโต ก็ยิ่งเห็นภาพที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เพราะเพิ่งเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “Leverage Flush” ขึ้นมา กล่าวคือ ราคาปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้เทรดเดอร์ที่ใช้เลเวอเรจสูงถูกบังคับล้างพอร์ต (Liquidation) กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะฝั่ง Short Position ที่มีเลเวอเรจสูง ส่งผลให้ Open Interest (OI) หายไปมากกว่า 4% ในเวลาอันสั้น
แม้จะฟังดูรุนแรง แต่แท้จริงแล้วนี่คือ ข่าวดีสำหรับตลาด เพราะฟองสบู่จากการเก็งกำไรเกินตัวได้ถูกกำจัดออกไปเรียบร้อย ส่งผลให้โครงสร้างตลาดกลับมามีความสมดุลและแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง เหตุการณ์ลักษณะนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากแรงเก็งกำไรที่บิดเบือนราคา และกลายเป็นสัญญาณว่า ตลาดอาจพร้อมสำหรับ การปรับตัวขึ้นอย่างยั่งยืน ในรอบถัดไป
5. แรงขายเริ่มหมดแรง แรงซื้อเริ่มเข้าควบคุม (Net Taker Volume)
Net Taker Volume เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยบอกเราว่า ใครกันแน่ที่กำลัง “คุมโมเมนตัม” ของตลาด ระหว่างฝั่งผู้ซื้อกับผู้ขาย ล่าสุดตัวเลขอยู่ที่ -48 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า แรงขายกำลังอ่อนแรงลง เพราะมีฝั่งผู้ซื้อคอยดูดซับแรงขายเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง
โดยปกติแล้ว ทุกครั้งที่มีแรงขายออกมา ย่อมต้องมีผู้ซื้อเข้ามารับอยู่เสมอ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จะมีแรงขายออกมามหาศาล ราคากลับไม่ร่วงแรงตามที่ควรจะเป็น นั่นหมายความว่า แรงขายกำลังใกล้หมดลง และเมื่อถึงจุดที่แรงขายหมดสิ้นไปแล้ว นั่นคือช่วงเวลาที่ แรงซื้อจะเข้ามาคุมเกม
ข้อมูล On-chain ชี้ไปทิศทางเดียวกัน
เมื่อพิจารณาภาพรวมจาก เบาะแสทั้ง 5 ข้อ จะเห็นได้ว่า Bitcoin กำลังอยู่ในจุดที่น่าสนใจมีกำลังซื้อมหาศาลรออยู่ข้างสนาม นักลงทุนมือใหม่ที่ใจไม่แข็งพอได้ทยอยยอมแพ้ออกจากตลาดไปแล้ว ขณะที่ราคา Bitcoin ยังคงยืนอยู่เหนือแนวรับสำคัญ อีกทั้งตลาดอนุพันธ์ก็ได้ล้างบางนักเก็งกำไรที่ใช้เลเวอเรจสูงออกไปเรียบร้อย และแรงขายโดยรวมก็กำลังจะหมดลง
ข้อมูล On-chain แทบทั้งหมดกำลังบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกัน ว่านี่อาจเป็น “โอกาสครั้งใหญ่” เพราะสัญญาณกระทิงเริ่มปรากฏชัดเจนมากขึ้น และดูเหมือนว่านี่คือโอกาสในการเข้าซื้อ มากกว่าจะเป็นกับดักที่ตลาดวางไว้
อย่างไรก็ตาม แม้ JA_Maturn จะนำเสนอหลักฐานที่น่าสนใจ แต่เขาก็ย้ำเตือนว่า ตลาดคริปโตไม่เคยง่ายดาย อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ แม้ข้อมูล On-chain จะเอนเอียงไปทางกระทิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงของ “กับดักราคา” จะหายไปโดยสิ้นเชิง
ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $111,747 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.07% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
บทความนี้ตั้งใจนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ แต่สิ่งสำคัญที่นักลงทุนทุกท่านต้องตระหนักอยู่เสมอคือ การลงทุนในคริปโตมีความผันผวนสูงและมีความเสี่ยงที่อาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งหมด ผู้เขียนและบริษัทไม่มีเจตนาในการแนะนำหรือชักชวนให้ลงทุน และจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนของท่าน ดังนั้น ทุกท่านควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านและพิจารณาความเสี่ยงอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ