บริษัท OranjeBTC จากบราซิล ซึ่งมี Bitcoin เป็นสินทรัพย์หลักในคลังของบริษัท ได้เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ B3 ของบราซิลเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้
การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ ทำให้บริษัท OranjeBTC กลายเป็นบริษัทผู้ถือครอง Bitcoin ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกาทันที ด้วยการถือครอง Bitcoin สูงถึง 3,675 BTC หรือมีมูลค่าประมาณ 444 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้เกิดขึ้นผ่านกระบวนการ Reverse Merger กับบริษัทด้านการศึกษา Intergraus ซึ่งช่วยให้ OranjeBTC สามารถเข้าซื้อขายได้รวดเร็วกว่าการทำ IPO ปกติ โดยใช้ชื่อย่อหุ้น OBTC3 และเริ่มเทรดวันแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ซึ่งราคาหุ้น OBTC3 เปิดตลาดมาที่ 4.35 ดอลลาร์สหรัฐ (23.22 BRL) ก่อนดีดขึ้นแตะ 4.59 ดอลลาร์ (24.50 BRL) ในช่วงเช้า อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดราคาปิดตลาดอยู่ที่ราว 4.33 ดอลลาร์ (23.15 BRL) หลังนักลงทุนบางส่วนเทขายทำกำไรออกมา

ผลการดำเนินงานของหุ้น OBTC3 ตลอดวัน / ที่มา: Tradingview
บริษัท OranjeBTC จากบราซิลได้รับแรงสนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง หลังระดมทุนได้กว่า 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารยักษ์ใหญ่ Itaú BBA และนักลงทุนชั้นนำในวงการคริปโต อาทิ ฝาแฝด Winklevoss (ผู้ก่อตั้ง Gemini), Adam Back (CEO ของ Blockstream), Ricardo Salinas (มหาเศรษฐีเจ้าของ Banco Azteca), รวมถึงกองทุน FalconX และ ParaFi Capital
นอกจากนี้ OranjeBTC ยังจับมือกับเว็บไซต์ข้อมูลชื่อดัง BitcoinTreasuries.net เพื่อยกระดับความโปร่งใสและเข้าถึงนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น โดยตามข้อมูลล่าสุดจาก BitcoinTreasuries.net บริษัทขึ้นแท่นเป็น ผู้ถือครอง Bitcoin อันดับที่ 26 ของโลก ด้วยจำนวน 3,675 BTC
Guilherme Gomes CEO ของ OranjeBTC กล่าวว่า ภารกิจของบริษัทคือการผลักดันให้ภาคธุรกิจหันมาถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง พร้อมสร้างความเข้าใจเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนในละตินอเมริกา
“เราต้องการให้ผู้คนมอง Bitcoin ไม่ใช่แค่เครื่องมือเก็งกำไร แต่เป็น ‘เงินรูปแบบใหม่’ ที่แท้จริง” Gomes กล่าว
การเข้าตลาดหุ้นของ OranjeBTC เกิดขึ้นในจังหวะที่ภูมิภาคละตินอเมริกากำลังเป็นศูนย์กลางใหม่ของการยอมรับคริปโต โดยรายงานจาก Chainalysis ปี 2025 ชี้ว่า การใช้งานคริปโตในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นถึง 63% ภายในปีเดียว โดยมี บราซิล อาร์เจนตินา และเม็กซิโก เป็นผู้นำการเติบโต

ที่มา: Chainalysis
- ที่มา: beincrypto
- ที่มาภาพ : infomoney
