เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาราคาทองคำได้พุ่งทะยานไปถึง $4,100 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นแบบ Year-to-Date ที่ดีที่สุดของทองคำในรอบกว่า 45 ปี
ไม่เพียงแต่ทองคำจริงเท่านั้นที่ราคาพุ่งขึ้น “ทองคำบนบล็อกเชน” หรือโทเคนที่มีมูลค่า Peg อยู่กับทองคำจริง ๆ ก็ราคาพุ่งแรงตามไปด้วย
ข้อมูลจาก rwa.xyz ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา จำนวนกระเป๋าคริปโตที่ถือครองโทเคนทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 53% ขณะที่ฝั่งอุปทานของโทเคนก็ขยายตัวเช่นกัน โดย Tether Gold (XAUT) เพิ่มขึ้น 52% และ Paxos Gold (PAXG) เพิ่มขึ้น 50% ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นโทเค็นที่มีทองคำจริงหนุนหลัง และสามารถซื้อขายได้แบบคริปโตตลอด 24 ชั่วโมง
ตั้งแต่ต้นปี ราคาทองคำปได้รับตัวขึ้นแล้วกว่า 54% ขณะที่ Bitcoin เติบโตขึ้นราว 31% เท่านั้น นักวิเคราะห์จาก HANetf อย่าง Tom Bailey ระบุว่า ปีนี้เป็นปีที่ทองคำทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแรงกังวลต่อปัญหาหนี้สาธารณะและการเสื่อมค่าของเงินเฟียตทั่วโลก
Bailey เสริมว่า การที่หลายประเทศต้องพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อตอบสนองต่อปัญหาเศรษฐกิจ กำลังซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า เช่น ทองคำ และ Bitcoin ซึ่งถูกมองว่าเป็น “เกราะป้องกันเงินเฟียต” ในยุคที่มูลค่าเงินกำลังสั่นคลอน
แม้ในตอนนี้ โทเคนทองคำ จะมีมูลค่าตลาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับโปรเจกต์คริปโตชื่อดังตัวอื่น ๆ และยังไม่สามารถทัดเทียมกับการซื้อขายทองคำจริงในตลาดหลักได้ แต่สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้กำลังเริ่มแสดง “ไม้เด็ด” ที่อาจผลักดันให้มันได้รับความนิยมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ตามปกติ ทองคำในโลกจริงมีหน้าที่เพียง “เก็บรักษา” เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือรักษามูลค่าเท่านั้น แต่ ทองคำบนบล็อกเชน สามารถถูกนำไปใช้ในรูปแบบที่ยืดหยุ่นกว่า
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก World Gold Council ระบุว่า Gold ETFs ยังคงเป็นช่องทางการลงทุนหลักของนักลงทุนทั่วโลก โดยปัจจุบันมีสินทรัพย์ในกองทุนรวมกว่า $460,000 ล้านดอลลาร์ และมีเม็ดเงินไหลเข้าตลอดปีนี้กว่า $64,000 ล้านดอลลาร์
แม้กระแสคริปโตจะร้อนแรง แต่ทองคำยังคงแข็งแกร่งกว่าในรอบนี้ โดยอัตราส่วน ทองคำ : บิทคอยน์ ลดลงจาก 40 เหลือ 31.6 ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี (ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024)
ที่มา : Cryptopolitan