ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดคริปโตดิ่งลงอย่างรุนแรง หลัง Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเตือนถึงมาตรการภาษีศุลกากรใหม่ที่เข้มงวดต่อจีน โดยดัชนี Fear & Greed ลดฮวบจากระดับ “ความโลภ” ที่ 64 เหลือเพียง 27 ซึ่งอยู่ในโซน “ความกลัว” ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน
ตลาดคริปโตเผชิญแรงเทขาย
ราคาของ Bitcoin ดิ่งลงแตะระดับ 102,000 ดอลลาร์ หลัง Trump โพสต์ประกาศบน Truth Social ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนสูงถึง 100% ในเดือนหน้า โดยให้เหตุผลว่า “ปักกิ่งดำเนินการอย่างไม่เป็นมิตร” ด้วยการจำกัดการส่งออกแร่ธาตุหายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญต่อภาคการผลิตของสหรัฐฯ
ผลลัพธ์คือเกิดแรงเทขายมหาศาลและการชำระบัญชีครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของตลาดคริปโต ส่งผลให้แพลตฟอร์มซื้อขายรายใหญ่ทั้ง Binance และ Coinbase ประสบปัญหาความแออัดและระบบขัดข้องเป็นวงกว้าง ผู้ใช้จำนวนมากรายงานว่าไม่สามารถดำเนินคำสั่งซื้อขายได้ แอปค้าง และถูกล็อกเอาต์ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนสูงสุด
ดัชนีความเชื่อมั่นแตะระดับ -2.8 จุด ต่ำสุดนับตั้งแต่ “Yen Carry Trade Unwind”
Andre Dragosch หัวหน้าฝ่ายวิจัยยุโรปของ Bitwise เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นสินทรัพย์ดิจิทัลภายในวันของบริษัทแตะระดับ -2.8 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ “Yen Carry Trade Unwind” ในช่วงกลางปี 2024 โดยเขาระบุว่านี่อาจเป็น “สัญญาณซื้อแบบสวนกระแส” สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาว
หตุการณ์คล้ายกันเคยเกิดขึ้นเมื่อต้นปี
ครั้งล่าสุดที่ตลาดตกอยู่ในภาวะความกลัวเช่นนี้คือวันที่ 16 เมษายน 2025 เมื่อ Bitcoin ร่วงลงไปแตะ 77,000 ดอลลาร์ จากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่ราคาจะฟื้นตัวกว่า 30% ภายในสัปดาห์เดียว เหตุการณ์ในครั้งนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Bitcoin ทะยานสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเวลาต่อมา
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกกดดันตลาดเข้าสู่ภาวะ “โหมดป้องกันความเสี่ยง”
การประกาศภาษีศุลกากรของ Trump มีผลกระทบในวงกว้างต่อตลาดโลก ไม่เพียงแต่ตลาดคริปโตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก นักลงทุนจำนวนมากเลือกปรับลดความเสี่ยง
นักวิเคราะห์เตือนว่า ความตึงเครียดด้านการค้าและนโยบายภาษีที่เข้มข้นขึ้นอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตลาดคริปโตในเดือนตุลาคมผันผวนมากกว่าปกติ
Source: Andre Dragosch

