<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักลงทุนไทยโอดครวญ ! แห่แชร์ขาดทุนคริปโต มูลค่ารวมกว่า 27 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันที่ 10 ตุลาคม 2025 ถูกบันทึกว่าเป็นหนึ่งใน “วันที่เลวร้ายที่สุด” ในประวัติศาสตร์ตลาดคริปโต หลังเกิดเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งใหญ่ที่กวาดล้างเงินเก็งกำไรหายไปเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 24 ชั่วโมง ความตื่นตระหนกจากแรงเทขายมหาศาล ทำให้มูลค่าตลาดคริปโตหายไปหลายแสนล้านดอลลาร์ในชั่วพริบตา เหรียญใหญ่เล็กต่างร่วงระเนระนาด นักลงทุนทั่วโลกต้องนั่งมองกราฟสีแดงเต็มหน้าจอด้วยหัวใจสั่นระรัวและแน่นอนว่า นักลงทุนชาวไทยก็หนีไม่พ้นความเจ็บปวดครั้งนี้เช่นกัน

หนึ่งในเรื่องราวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือโพสต์จากนักลงทุนชาวไทยรายหนึ่งชื่อ Suputra Thawphin ที่ออกมาแชร์ “ประสบการณ์สุดเจ็บปวด” ลงในกลุ่ม Bitcoin Crypto Thailand (พูดคุย ข่าวสาร คริปโต บิทคอยน์) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม โดยเจ้าตัวได้แนบภาพพอร์ตการลงทุนในตลาด Futures ซึ่งเผยให้เห็นผลขาดทุนสะสมกว่า 381,022.12 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 12.47 ล้านบาทไทย

แต่ความจริงยิ่งกว่านั้นเจ็บกว่าเมื่อมีสมาชิกในกลุ่มออกมาเปิดเผยว่า Suputra Thawphin ได้แลกเงินดอลลาร์ไว้ตั้งแต่เรทราคา 37 บาท นั่นหมายความว่า ยอดขาดทุนจริง อาจมีมูลค่าสูงถึง 14–15 ล้านบาท เลยทีเดียว ซึ่ง Suputra ก็บอกสั้นๆ ว่า นี่คือ “ประสบการณ์ราคาแพง” ที่เขาจะไม่มีวันลืม

นอกจากนี้ มีนักลงทุนอีกหลายราย ที่เข้ามาร่วมคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าว บางคนถึงขั้นโชว์พอร์ตของตัวเองเพื่อ “จับมือร่วมชะตาเดียวกัน”


หนึ่งในนั้นขาดทุนสูงถึง 315,772.14 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10,335,222 บาท พร้อมข้อความสั้นแต่กินใจว่า “จับมือครับ”

ขณะที่อีกรายก็เข้ามาแชร์ว่า เธอเองก็ขาดทุนกว่า 100,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,273,000 บาท พร้อมพูดอย่างเข้าใจหัวอกเดียวกันว่า

“เราว่าเราหนักแล้วนะ เบาไปเลย โดนประมาณ 100,000usd เข้าใจเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ”

โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในกลุ่มทันที มีทั้งเสียงให้กำลังใจ เสียงระบาย และคำเตือนถึงนักลงทุนรายใหม่ที่กำลังเข้าสู่ตลาดคริปโต หลายคนยอมรับว่าแม้จะตั้ง Stop Loss แล้ว แต่ในภาวะตลาดร่วงแรงแบบนี้ก็ “เอาไม่อยู่” เพราะราคาทะลุไปถึง Liquidate หรือล้างพอร์ตแบบไม่เหลือแม้แต่จุดยืน

“ไอแท่งรูดๆ แบบนี้ ใส่ stop loss ก็ไม่ค่อยรอดด้วยสิ แม่งทะลุยัน liquidate ยิ่งเหรียญเล็กๆ ที่ liquidity ต่ำๆ ลงไปสุดกราฟก็มี”

ประสบการณ์ที่เจ้าของโพสต์ได้ออกมาแชร์ในกลุ่มถือว่าเป็น อุทาหรณ์ครั้งใหญ่สำหรับนักลงทุนทุกคนในตลาดคริปโต ที่สะท้อนให้เห็นว่า ความผันผวนและความเร็วของตลาดสามารถพลิกจากกำไรเป็นศูนย์ได้ในพริบตาเดียว ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์มากแค่ไหนก็ตาม

ตลาดคริปโตไม่ใช่พื้นที่สำหรับ “ความโลภ” แต่คือสนามที่ต้องอาศัย วินัย การบริหารความเสี่ยง และสติ อยู่เสมอ เพราะในวันที่กราฟยังเขียว ทุกคนคืออัจฉริยะ แต่เมื่อแท่งแดงปรากฏ นั่นแหละคือวันที่ “บทเรียนราคาแพง” มาเยือนเราแล้วจริง ๆ