ในบรรยากาศที่ความสัมพันธ์สหรัฐฯ–จีนตึงเครียดและพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ ข่าวดีเล็ก ๆ อย่าง “การไม่ต้องขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 100%” กลับกลายเป็นสัญญาณบวกที่ตลาดทั่วโลกจับตาอย่างใกล้ชิด
ล่าสุด สก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่า ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างสองมหาอำนาจ “อาจไม่รุนแรงอย่างที่หลายคนคิด” หลังทั้งสองฝ่ายกลับมามี “การสื่อสารอย่างจริงจัง” ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แม้ก่อนหน้านี้ ทรัมป์จะเคยขู่ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนถึง 100% และ “ยกเลิกการประชุม” กับประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แต่เบสเซนต์ยืนยันว่า การประชุมสุดยอด APEC ที่เกาหลีใต้ช่วงปลายเดือนตุลาคม “ยังคงมีขึ้นตามกำหนด”
เขายังระบุว่า มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน “อาจไม่ได้มาจากประธานาธิบดีสีโดยตรง แต่เป็นฝีมือของกลุ่มสายแข็งในพรรค”
ขณะที่ทรัมป์เองก็โพสต์ข้อความใน Truth Social เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมว่า
“ไม่ต้องกังวลเรื่องจีน ทุกอย่างจะเรียบร้อย! ผมเคารพท่านสีจิ้นผิงมาก และผมเชื่อว่าเขาไม่ต้องการให้ประเทศของเขาเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ สหรัฐฯ ต้องการช่วยเหลือจีน ไม่ใช่ทำร้ายจีน”
ถ้อยคำดังกล่าวช่วยลดแรงกดดันทางการเมืองและดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวทันทีในวันที่ 13 ตุลาคม หลังทรัมป์พูดถึง “ความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับจีน” ระหว่างเดินทางบนเครื่อง Air Force One
อย่างไรก็ตาม เบสเซนต์ยังเตือนว่าการที่จีนประกาศควบคุมการส่งออกในวันเดียวกับที่ทรัมป์ประกาศข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิสราเอล–ฮามาสนั้น “เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม” แต่ยอมรับว่าทรัมป์ “สามารถแก้เกมกลับได้ทันท่วงที”
เขาทิ้งท้ายว่า ทั้งสองประเทศกลับมาคุยกันแล้ว และเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะหารือกันต่อในสัปดาห์นี้
“ภาษี 100% ยังไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น ความสัมพันธ์โดยรวมยังดีอยู่ ตอนนี้เรากลับมามีช่องทางสื่อสารกันแล้ว ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร”
ที่มา : usatoday

