Strategy (MSTR) ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการคริปโต เมื่อ S&P Global สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้เข้ามาให้ “เรตติ้ง” หรือ “อันดับความน่าเชื่อถือ” แก่บริษัทเป็นครั้งแรก แม้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะไม่ใช่เกรดสวยหรูนักก็ตาม
ได้เรตติ้ง B- ‘เกรดเก็งกำไร’ หรือ ‘หุ้นกู้ขยะ’
S&P Global ได้ให้เรตติ้งแก่ Strategy ที่ระดับ B- ซึ่งตามเกณฑ์ของ S&P แล้ว ถือว่าอยู่ในกลุ่ม “Non-investment Grade” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “Junk Bond” (หุ้นกู้ขยะ) ซึ่งหมายถึง “คุณภาพเครดิตเชิงเก็งกำไรที่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น”
ทำไมถึงได้เรตติ้งนี้? S&P ชี้ ‘เสี่ยงสูง’ เพราะพึ่ง Bitcoin
แม้ว่า Strategy จะมีมูลค่าตลาดมหาศาลและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ดี แต่ S&P กลับมองว่าโมเดลธุรกิจของบริษัท ซึ่งแทบจะทั้งหมดผูกติดอยู่กับการถือครอง Bitcoin นั้นมีความเสี่ยงทางการเงินที่สำคัญ
เหตุผลหลักๆ ที่ S&P ให้เรตติ้งในระดับนี้คือ:
- เงินสดน้อย-รายได้ไม่แน่นอน แม้จะมี Bitcoin ในคลังมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ Strategy กลับมี “เงินสด” หมุนเวียนน้อยมาก และแทบไม่มี “รายได้จากการดำเนินงาน” ที่แน่นอนเลย ธุรกิจซอฟต์แวร์เดิมก็แค่พอประคองตัว
- ความไม่สมดุลของสกุลเงิน สินทรัพย์ส่วนใหญ่อยู่ในรูป Bitcoin แต่หนี้สินและภาระการจ่ายเงินปันผลกลับอยู่ในรูป “ดอลลาร์สหรัฐ” ทำให้บริษัทอาจถูกกดดันให้ต้อง “ขาย Bitcoin” (ซึ่งอาจจะขาดทุน) หากไม่สามารถระดมทุนใหม่ได้ทันในช่วงตลาดขาลง
- กฎการบัญชี ตามหลักการของ S&P มูลค่าของ Bitcoin จะไม่ถูกนับรวมเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นในการคำนวณเงินทุน เนื่องจากความผันผวนและความเสี่ยงที่ไม่สัมพันธ์กับตลาด ทำให้ในทางบัญชีแล้ว Strategy ดูเหมือนจะมี “เงินทุนติดลบ” แม้จะถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ามหาศาลก็ตาม
- ภาระปันผลหุ้นบุริมสิทธิ บริษัทมีภาระต้องจ่ายเงินปันผลสำหรับหุ้นบุริมสิทธิสูงถึงปีละกว่า 640 ล้านดอลลาร์ แม้จะสามารถเลื่อนการจ่ายได้ แต่ก็จะส่งผลเสียต่อการกำกับดูแลกิจการ
มุมมองเชิงบวก ‘ก้าวแรก’ สู่การยอมรับของสถาบัน
แม้เรตติ้งที่ได้จะไม่สวยงาม แต่ ไมเคิล เซย์เลอร์ ประธานบริหารของ Strategy ก็ได้ออกมาเน้นย้ำว่า บริษัทของเขาคือ “บริษัทคลัง Bitcoin แห่งแรก” ที่ได้รับการจัดอันดับจากสถาบันชั้นนำ ซึ่ง เดวิด เบลีย์ ซีอีโอของ KindlyMD (NAKA) ก็ได้ออกมาสนับสนุน โดยกล่าวว่า “ความต้องการของตลาดสำหรับบริษัทคลัง (Bitcoin) กำลังจะระเบิด”
การมีเรตติ้งถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะกองทุนบำเหน็จบำนาญและนักลงทุนสถาบันหลายแห่งจำเป็นต้องใช้เรตติ้งในการพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัท แม้ตอนนี้ Strategy จะยังอยู่ในระดับ Junk แต่หากในอนาคตได้รับการปรับอันดับขึ้น ก็อาจเป็นการเปิดประตูสู่เม็ดเงินลงทุนก้อนใหญ่จากสถาบันได้
ที่มา: S&P Global

