ส.ว. อลิซาเบธ วอร์เรน (Elizabeth Warren) และ ส.ว. เบอร์นี แซนเดอร์ส (Bernie Sanders) กำลังส่งสัญญาณเตือนภัยดังลั่น เกี่ยวกับ “ความเสียหายทางการเงิน” ที่พวกเขาอ้างว่าอาจจะเกิดขึ้นกับชาวอเมริกันหลายล้านคน หากอุตสาหกรรมกองทุนเพื่อการเกษียณ (401(k)) ทำตามคำแนะนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนำเงินออมของประชาชนไปเสี่ยงกับสินทรัพย์ที่อันตรายอย่างคริปโต
ในจดหมายที่ส่งถึง พอล แอตคินส์ ประธาน ก.ล.ต. (SEC) และ ลอรี ชาเวซ-เดอรีเมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในสัปดาห์นี้ กลุ่ม ส.ว. ฝ่ายก้าวหน้าได้เตือนว่าการเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลทรัมป์ที่สนับสนุนให้ผู้ให้บริการ 401(k) นำเงินออมเพื่อการเกษียณของชาวอเมริกันไปลงทุนในคริปโตและตลาดเอกชน อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย
การ ‘กลับลำ’ นโยบายที่น่ากังวล
จดหมายดังกล่าวไม่เพียงแต่เน้นย้ำถึง “คำสั่งผู้บริหาร” (Executive Order) ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่สนับสนุนให้กองทุนเพื่อการเกษียณหันมาใช้คริปโต แต่ยังชี้ไปที่การที่กระทรวงแรงงานได้ “ยกเลิก” นโยบายในยุคไบเดน ที่เคยให้คำแนะนำแก่ผู้ให้บริการ 401(k) ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่างคริปโต
“[กระทรวงแรงงาน] กำลังพยายามทำให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้ถูกกฎหมายในฐานะการลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับการออมเพื่อการเกษียณ” กลุ่ม ส.ว. เขียน “การกลับลำครั้งนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง… กองทุนเพื่อการเกษียณสมควรได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ”
คริปโต = ‘การพนัน’ ไม่ใช่ ‘การลงทุน’?
จดหมายฉบับนี้ได้เน้นย้ำถึงข้อกังวลจากรายงานการศึกษาของรัฐบาล (GAO) ก่อนหน้านี้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในคริปโตนั้นแตกต่างจากการลงทุนในรูปแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง
รายงานของ GAO พบว่า เนื่องจากโทเคนคริปโต “ไม่ผลิตกระแสเงินสด” (Do not produce any cash flow) มันจึงไม่สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุน และจะสามารถทำกำไรได้ก็ต่อเมื่อ “ขายในราคาที่สูงขึ้น” เท่านั้น ซึ่ง GAO สรุปว่าไดนามิกดังกล่าวทำให้ราคานั้นคาดเดาไม่ได้ และดู “เหมือนการพนันมากกว่าการลงทุนที่มีประสิทธิผล”
คำถามตัวโตๆ ผลประโยชน์ทับซ้อนของ ‘ตระกูลทรัมป์’
ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในจดหมายคือการตั้งคำถามถึง “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ของประธานาธิบดีทรัมป์ จดหมายระบุว่าทรัมป์มี “ส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง” (direct exposure) กับคริปโต และมีความเป็นไปได้ที่การอัดฉีดเงินทุนมหาศาลจากอุตสาหกรรมกองทุนเพื่อการเกษียณที่มีมูลค่าถึง 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าสู่ตลาดคริปโต จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อตัวเขาและครอบครัว
ประเด็นนี้ถือว่าน่าจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าตระกูลทรัมป์ได้กระโดดเข้าสู่วงการคริปโตอย่างเต็มตัว ทั้งการเปิดตัวแพลตฟอร์ม World Liberty Financial และบริษัทขุดเหมือง American Bitcoin (ABTC) ของอีริค ทรัมป์
“คนอเมริกันจะเชื่อถือคำแนะนำที่มาจากรัฐบาลที่อาจจะได้กำไรมากขึ้นจากการเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้อย่างไร?” กลุ่ม ส.ว. ตั้งคำถาม พวกเขาได้เรียกร้องให้ SEC และกระทรวงแรงงานตอบคำถามว่า ได้มีการศึกษาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับนักลงทุนรายย่อยหรือไม่ และที่สำคัญคือ ได้มีการสืบสวนหรือไม่ว่า “ตระกูลทรัมป์จะได้กำไรจากนโยบายใหม่นี้มากน้อยเพียงใด”
ที่มา: United States Senate

