ราคา Bitcoin (BTC) ได้ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยแตะระดับ $105,545 ซึ่งเป็นการลดลงประมาณ 1.9% ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้เกิดความกังวลในกลุ่มนักลงทุน แต่ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เกิดการวิเคราะห์ที่แตกออกเป็นสองขั้วอย่างชัดเจนว่า นี่คือการสิ้นสุดของวัฏจักรขาขึ้น (Cycle Top) หรือเป็นเพียงการปรับฐานที่ “ดีต่อสุขภาพ” (healthy correction)
นักวิเคราะห์บางกลุ่มแสดงความกังวลอย่างยิ่ง โดยชี้ว่ากราฟแท่งเทียนรายเดือนของ Bitcoin มีความคล้ายคลึงกับช่วงสูงสุดของวัฏจักรในปี 2021 อย่างน่าตกใจ พวกเขาตั้งข้อสังเกตจากสัญญาณทางเทคนิคที่สำคัญ ได้แก่:
- Bearish Divergence บนทั้ง RSI และ Stoch RSI
- รูปร่างของ แท่งเทียนสีแดงรายเดือน ที่ปรากฏที่ระดับสูงสุด
- ช่วงเวลา 35 เดือน นับจากจุดต่ำสุดของวัฏจักรจนถึงจุดสูงสุดในปัจจุบัน ซึ่งใกล้เคียงกับรูปแบบในอดีต
นักวิเคราะห์กลุ่มนี้มองว่าหากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ $102,000 ไปได้ ตลาดอาจเผชิญกับแรงเทขายที่รุนแรงจนเห็นระดับราคาที่ $85,000 หรือต่ำกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่เชื่อมั่นในการถือครองระยะยาว (HODLers) มองว่าความผันผวนนี้เป็นเพียง “การล้างเลือด” ของนักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูงเกินไป และเป็นเรื่องที่ดีของตลาดก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ All-Time Highs (ATHs) ใหม่ ข้อโต้แย้งหลักคือ:
- เมื่อสงสัยให้มองภาพกว้าง: มีการเตือนใจให้นักลงทุน “Zoom Out” หรือมองภาพรวมระยะยาว เหมือนกับเหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 12 ปีก่อนที่ Bitcoin เคยร่วงลง 50% ใน 6 ชั่วโมง จากนั้นก็พุ่งขึ้นกว่าสิบเท่า
- โครงสร้างตลาดที่รัดกุม: มีการชี้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างจาก 12 ปีก่อนอย่างมาก เพราะวันนี้ตลาดมี Spot ETF, บริษัทคลังทรัพย์สิน (Treasuries) และ Global Liquidity Desks เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้ปริมาณอุปทานของ BTC ในตลาด “ตึงตัวยิ่งขึ้น” (supply is tighter) และผู้ซื้อมีขนาดใหญ่ขึ้น การร่วงลงของราคาพร้อมกับการรีเซ็ต Funding Rate และการล้าง Open Interest จึงถูกมองว่าเป็น “เชื้อเพลิง” (fuel) ไม่ใช่ “งานศพ” (funeral) ของตลาด
การร่วงลงของราคาครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ของ Standard Chartered ที่เคยทำนายไว้เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2025 ว่าอาจมีการปรับฐานลงต่ำกว่า $100,000 ชั่วคราว ก่อนที่จะกลับสู่แนวโน้มขาขึ้น ซึ่งแนวรับที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ Bitcoin ยังคงอยู่ที่เส้นแนวโน้มสนับสนุนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 หากราคาสามารถรักษาแนวรับนี้ไว้ได้ ก็อาจมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมาย $120,000 ได้ต่อไป
ที่มา: @BitcoinMagazine , @CryptoBullet1 , @Vivek4real_