<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘แซม’ กลับมา! SBF ยื่นอุทธรณ์ขอพิจารณาคดีฉ้อโกง FTX ใหม่ หวังลดโทษ 25 ปี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรมของ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried หรือ SBF) อดีตซีอีโอ FTX ที่ถูกตัดสินจำคุก 25 ปีในข้อหาฉ้อโกงครั้งใหญ่ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเช้าวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2025 โดยเขาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์แห่งสหรัฐอเมริกา รอบที่สอง เพื่อเรียกร้องให้มีการพิจารณาคดีใหม่หลังจากที่เขาถูกคณะลูกขุนในนิวยอร์กตัดสินว่ามีความผิดในความผิดทางอาญาครบทั้ง 7 กระทง เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 จากการฉ้อโกงลูกค้า ผู้ให้กู้ และนักลงทุนของ FTX

ข้อโต้แย้งหลักที่ทีมทนายความของ SBF นำมาใช้ในการอุทธรณ์ คือการวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการของผู้พิพากษา Lewis Kaplan ที่จำกัดไม่ให้ SBF นำเสนอหลักฐานบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ว่า SBF ได้กระทำการต่าง ๆ โดยสุจริตใจตามคำแนะนำของทนายความ หรือ “Presence of Counsel” ซึ่งฝ่ายจำเลยเชื่อว่าการจำกัดหลักฐานดังกล่าวทำให้ SBF ไม่ได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม นอกจากนี้ SBF ยังพยายามยืนยันว่า FTX ไม่ได้ล้มละลายจริง แต่เป็นเพียงวิกฤตสภาพคล่องที่สามารถแก้ไขได้

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่าฝ่ายจำเลยของ SBF กำลังเผชิญกับ “การต่อสู้ที่ยากลำบากอย่างยิ่ง” เนื่องจากศาลอุทธรณ์มักให้อำนาจและดุลยพินิจแก่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นค่อนข้างมาก และมีแนวโน้มที่จะยืนหยัดในการตัดสินเดิม เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่าการตัดสินใจของผู้พิพากษานำไปสู่การพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมโดยรวม อดีตอัยการรัฐบาลกลาง Samson Enzer ชี้ว่าศาลจะใช้เวลาหลายเดือนในการออกคำตัดสิน โดยจะพิจารณาความสำคัญของประเด็นการจำกัดหลักฐานที่ SBF ยกขึ้นมาเป็นหลัก

ผู้ปกครองของ SBF มีแผนสำรองที่เตรียมไว้คือการผลักดันให้มีการขออภัยโทษจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หากการอุทธรณ์ในศาลไม่เป็นผล ซึ่งเป็นความพยายามที่เกิดขึ้นหลังจากการอภัยโทษให้กับบุคคลสำคัญในวงการคริปโตคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ แต่โอกาสดังกล่าวก็ถูกมองว่ามีน้อยมาก เนื่องจาก SBF มีประวัติทางการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์กับทรัมป์ในช่วงการเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งความขัดแย้งทางการเมืองนี้อาจส่งผลต่อการพิจารณาการอภัยโทษ.

ที่มา: @WuBlockchain , TheBlock