คุณลุงโฉลก สัมพันธารักษ์ นักลงทุนชื่อดังของไทย และผู้ก่อตั้งชมรม CDC Chaloke.com ได้ร่วมพูดคุยในรายการ Business tomorrow เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “วิเคราะห์สด! ฟองสบู่เริ่มแตก? จบรอบ บิทคอยน์-ทองคำ” โดยแสดงมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางของราคา Bitcoin ผ่านการดูกราฟวิเคราะห์ทางเทคนิค
เมื่อผู้ดำเนินรายการ ถามว่า จากการที่ราคา bitcoin ร่วงลงมาต่ำกว่าแสนดอลลาร์ ในช่วงที่ผ่านมา คุณลุงช่วยดูภาพของเทคนิคอลหน่อยได้ไหมคะ ระยะสั้น ตกลงมาขนาดนี้ จาก bullish เปลี่ยนเป็นขาลงแล้วหรือยัง ?
ลุงโฉลก กล่าวว่า “bitcoin ถ้าดู trend ล่าสุด มันเป็น uptrend แล้วมันก็กลายเป็น downtrend ลงมาตรงนี้ คนก็แตกตื่นตกใจกัน เพราะมันลงเยอะเหลือเกิน แต่การลงอย่างนี้ ในอดีตมันก็ลงเยอะ เยอะกว่าด้วยซ้ำ ไม่เห็นมีอะไรเลย มันลงแล้วมันก็ขึ้น คือลักษณะของตลาดพวกนี้ เป็นอย่างงี้ มันเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้นตอนนี้ ที่มันลงจากนี้มานี้ลงนิดนึง ไม่ได้เยอะอะไรเลย ถ้าเราวางหมากถูก
อย่างที่เคยพูดเสมอว่า เราต้องแยกบัญชี บัญชีระยะยาว กับบัญชีระยะสั้น รวมกันไม่ได้ รวมกันแล้วคุณก็ใช้เงินผิดประเภทแล้วมันก็เละไปหมด
บัญชีระยะยาว ซื้อระยะยาวด้วยเงินเหลือ เก็บเอาไว้ เป็น store of wealth คือเงินจำนวนนี้ไม่ได้ใช้หรอก มันเหลือ
ที่เราต้องยุ่งคือ บัญชี speculate บัญชีเก็งกำไร แต่เมื่อขยายดูที่มันแดง มันก็เริ่มแดงตั้งแต่ตรงนี้ เราก็ขายออกไปแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรต้องเดือดร้อน ลงเท่าไหร่ก็ไม่เดือดร้อน ปัญหาคือ ไม่ทำตามระบบ พอแดงก็ไม่ออก หากซื้อที่เขียว ขายที่แดง ก็ขาดทุนนิดนึงเท่านั้น”

ลุงโฉลก กล่าวเสริมว่า “เพราะฉะนั้น วิธีแก้ไม่มี ต้องไปนั่งพิจารณาว่า เราจะยอมทำตามระบบมันหรือยัง ก็ฝึกจิตใจให้รู้จักพอเพียง แล้วทำไปตามระบบ ส่วนที่ว่าติดดอย ขาดทุนย่อยยับ ทำยังไง ก็บอกว่าเสียเงินไป แล้วเรียน แล้วพูดกับตัวเองว่า จะมีระบบกันซักทีได้หรือยัง หรือจะซื้อส่งเดชไปเรื่อย ๆ อันนี้ก็เป็นช้อยส์ของพวกเรา แค่ทำตามระบบ เห็นสีเขียวแดง เราก็ไม่ขาดทุนแล้ว มันกำไรน้อยหน่อย แต่ไม่ขาดทุน”
เมื่อผู้ดำเนินรายการ ถามว่า “ แต่ระยะสั้น downtrend ชัดเจนเลยใช่ไหมคะ ลงได้อีกแรงแค่ไหนคะ ?”
ลุงโฉลก กล่าวว่า “มันแล้วแต่ว่า wave มันจะเป็นยังไง เราก็กะว่าประมาณแสนนึง หรือต่ำแสนนิดหน่อย แล้วเดี๋ยวก็จะขึ้นเป็น strong B แล้ว เข้าใจว่าอย่างนั้น ต้องรอดูอาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้า ถ้ามันเป็น B มันจะขึ้นแรงมาก ถ้ามันขึ้นแรงตรงนี้ ก็แปลว่าไปแล้ว สูงไปตรงนี้แล้ว ไปทำ New high ใหม่ เพื่อจะลง ก็รอดูตรงนี้”

เมื่อผู้ดำเนินรายการ ถามว่า “ถ้าเขียวแรก เข้าได้ไหม ?”
ลุงโฉลก กล่าวว่า “ถ้าเขียวแรก น่าจะเข้าได้ ซึ่งมันจะมีตัวนำมาก่อนเสมอ คือ Big black แปลว่า เม่าขายทิ้ง ยอมแพ้ มันถึงจะขึ้นจริง แต่ถ้ามันเขียว แล้วไม่มีอะไรนำหน้า มันก็ขึ้นน้อย ก็พิจารณาแค่นี้ แล้วสัญญาณอื่นๆ ด้วยประกอบ ก็รอดูถ้ามันมีสัญญาณ แล้วขึ้นก็ขึ้นได้สูง ถ้าไม่มีสัญญาณ แล้วขึ้น ก็แปลว่า อาจจะขึ้นไปไม่ถึงยอดนี้ก็ได้ น้อยหน่อย”

“แต่ว่าที่น่าสนใจ คือ มันเกิด Big black 2 แท่งนี้แล้ว โอกาสที่จะขึ้นจริงเริ่มมีแล้ว หรือถ้าอีกอาทิตย์หนึ่งมันไม่ขึ้น ก็ควรจะยอมแพ้ได้แล้ว ”

เมื่อผู้ดำเนินรายการ ถามว่า “แล้วถ้าเป็นบัญชีเก็บออม ภาพใหญ่ ยังถือกันยาว ๆ ไม่ต้องอกสั่น ขวัญแขวนใช่ไหมคะ ภาพใหญ่ยังเป็น uptrend หรือปล่าวคะ?”
ลุงโฉลก กล่าวว่า “เก็บออม มันก็ได้ราคาเฉลี่ยกลาง ๆ แล้วปริมาณที่เก็บออม ก็มากขึ้นทุกวัน ๆ วันนี้มันร่วงลงมาเราก็ดีใจ เราซื้อได้ที่ราคาถูก พอมันขึ้นดีใจอีก เพราะเก็บออมทั้งหมดที่ dca ของเรามันขึ้นไปด้วย ถ้ามัน sideway มันก็ทำให้ stop to flow ดีขึ้น คือมันย้ำ stop มันก็ใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นๆ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลง พอมีการเปลี่ยนแปลงราคาเข้ามา มันก็ไม่ทำให้ตัวใหญ่เดือดร้อน เพราะฉะนั้นจะขึ้นก็ดีใจ จะลงก็ดีใจ จะ sideway ก็ดีใจ
นี่คือ การตั้ง Mindset ที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปเอาแต่กำไรนะ ถึงได้กำไรก็ไม่มีความสุข เพราะอยากได้อีก ความโลภมันประดังเข้ามา แต่ถ้าเอาความพอใจเป็นหลัก ความโลภมันไม่เข้า”
เมื่อผู้ดำเนินรายการ ถามว่า “มีโอกาสเห็นการจบรอบสั้นของ Bitcoin ในช่วงระยะเวลา 1 ปีนี้ไหม ? ซึ่งมีคนประเมินตัวเลขประมาณระดับ 25,000 ดอลลาร์ มีความเป็นไปได้หรือเปล่า ถ้าดูจาก Technical ตอนนี้ เป็นไปได้ไหมคะ ราคา Bitcoin จะร่วงลงมาถึง 25000 ดอลลาร์”
ลุงโฉลก กล่าวว่า “ ก็ตามทฤษฎี ก็ลงไปได้ 25,000 ถูกต้องเลยครับ เพราะขึ้นแต่ละครั้งก็ลง 80% ดังนั้นถ้าขึ้นครั้งนี้ ถ้าลง ก็จะลงประมาณ 25,000 ดอลลาร์ แต่ว่าการลงมันก็ไม่ใช่ 80 เสมอไปหรอก บางทีมันลงมาเป็น a b c running มันก็ลงไม่ถึง 80
ซึ่งถ้าครั้งนี้มันลง แล้วกระดกขึ้นไปเป็น strong B ก็แปลว่า จะเป็น Running Flat แล้วขึ้นเลย ไม่รอลงมาถึง 2 หมื่นกว่า ก็มีความเป็นไปได้ที่มันอาจลงมาต่ำกว่า แสนดอลลาร์ เก้าหมื่นกว่า แล้วก็ขึ้นอีกที อันนี้น่าสนใจมากกว่า”
“25,000 ดอลลาร์ มัน extreme นะ ถามว่า เป็นไปได้ไหม เป็นไปได้ แต่คงไม่เกิดขึ้น น่าจะแค่ 8 หมื่น 9 หมื่นดอลลาร์ อะ อย่างมาก”
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

