World Liberty Financial (WLFI) โครงการคริปโตที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลทรัมป์ กำลังเผชิญกับข้อครหาครั้งใหญ่เรื่องอำนาจควบคุมส่วนกลาง โดยได้สั่งการอายัด (Freeze) และเตรียมจัดสรรสินทรัพย์ของผู้ใช้งานบางส่วนใหม่ หลังอ้างว่าเกิดการโจมตีแบบ Phishing ที่ส่งผลให้ Seed Phrase ของผู้ใช้รั่วไหลก่อนการเปิดตัว (Pre-launch)
WLFI แถลงเมื่อวันพุธว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากช่องโหว่ใน Smart Contract หรือแพลตฟอร์มของ WLFI เอง แต่เป็น “ความบกพร่องด้านความปลอดภัยจากบุคคลที่สาม” ซึ่งทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงกระเป๋าเงินผู้ใช้ได้ ทางทีมงานจึงได้ดำเนินการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีการเผาโทเคน WLFI มูลค่ากว่า 22.14 ล้านดอลลาร์ จากที่อยู่ที่มีปัญหา และจัดสรรสินทรัพย์ใหม่ไปยังกระเป๋าเงินที่ปลอดภัย
การจัดสรรสินทรัพย์ใหม่นี้จะดำเนินการให้กับผู้ใช้งานที่ ยืนยันตัวตน (KYC) ครบถ้วนแล้วเท่านั้น ส่วนบัญชีของผู้ใช้งานที่ยังไม่ได้ยืนยัน KYC จะยังคงถูกอายัดไว้ ซึ่ง WLFI อ้างว่าดำเนินการนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำเงินออกไปได้ และกำลังทำงานร่วมกับเจ้าของที่แท้จริง
การกระทำของ WLFI ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในชุมชนคริปโต เนื่องจากโครงการนี้ถูกนำเสนอในฐานะโครงการที่ “ชุมชนปกครอง” (Community Governed) แต่กลับสามารถ สั่งอายัดและจัดสรรสินทรัพย์ของผู้ใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Governance Proposal)
นักพัฒนาบล็อกเชนบางรายออกมาเตือนว่า การที่แพลตฟอร์มมีอำนาจในการ Lock หรือ Rug (ยึด) Wallet ของผู้ใช้งานได้ตามใจชอบนั้น เป็นการบ่อนทำลายหลักการของ DeFi อย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน นักลงทุนบางส่วนก็สนับสนุนการตัดสินใจของ WLFI โดยมองว่าเป็น “ความรับผิดชอบ” และการแสดงความมุ่งมั่นต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ที่มักจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบเมื่อเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยภายนอก.
ที่มา: @worldlibertyfi

