กระแสความกังวลเริ่มก่อตัวหลังจาก Bitcoin ร่วงหนักต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดสัญญาณ Death Cross เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ JRNY นักวิเคราะห์ชื่อดังออกมาย้ำว่า แม้สัญญาณเทคนิคจะดูไม่ดี แต่ตลาดมักเกิดการดีดตัวก่อนที่ทิศทางจริงจะชัดเจน
เขามองว่าการเด้งกลับระยะสั้น อาจเกิดขึ้นในกรอบราคา 92,000 ถึง 98,000 ดอลลาร์ ภายใน 1 ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นตลาดจะเริ่มเปิดเผยทิศทางว่าเป็นเพียง “พักฐานก่อนขึ้นต่อ” หรือเป็น “จุดเริ่มต้นตลาดขาลงจริง”
พฤติกรรมวาฬสวนทางกัน ทำให้ตลาดดูผิดธรรมชาติ
ความผิดปกติเริ่มเห็นชัดเมื่อมีการเคลื่อนไหวของวาฬครั้งใหญ่ กระเป๋ายุค Satoshi ซึ่งถือเหรียญมาตั้งแต่ปี 2011 ได้ขาย 11,000 BTC ออกมา ซึ่ง JRNY ระบุว่าเป็นสัญญาณ “น่ากังวลอย่างมาก”
แต่เกือบจะทันทีหลังจากนั้น วาฬอีกรายกลับกวาดซื้อ 20,000 BTC ภายใน 48 ชั่วโมง พลิก Sentiment ไปอีกทางหนึ่งทันที นอกจากนี้ MicroStrategy ยังซื้อ Bitcoin เพิ่มกว่า 8,000 BTC และนักขุดบางส่วนหันมาสะสม ETH แม้ขาดทุนอยู่
ภาพรวมจึงออกมาแปลก โดยรายย่อยกำลังตื่นตระหนกและเทขาย ขณะที่รายใหญ่และนักลงทุนระยะยาวกลับทยอยสะสมอย่างเงียบ ๆ ราวกับไม่สนใจความกลัวของตลาดเลย
ไม่มีโมเดลวัฏจักรใดอธิบายตลาดตอนนี้ได้ครบ
วัฏจักรคริปโตในรอบนี้มีความซับซ้อนมากจนผู้เชี่ยวชาญมีมุมมองต่างกันสุดขั้ว โดย Tom Lee มองว่า ETH ใกล้จุดต่ำสุดแล้ว ส่วน Arthur Hayes เชื่อว่ารอบนี้อาจยืดไปถึงปี 2027–2028 และอีกกลุ่มชี้ว่า วัฏจักร 4 ปีปกติ หมดรอบไปแล้ว ตลาดจึงแค่พักฐานตามธรรมชาติ
JRNY สรุปว่า “ไม่มีใครรู้จริง 100%” และถ้าใครมั่นใจถึงขั้นวางแผนล่วงหน้าได้ทั้งหมด พวกเขาคงไม่มาทวีตตอนตีสองเหมือนคนทั่วๆ ไป
สภาพคล่องอาจเป็นตัวแปรสำคัญของตลาดรอบนี้
โดย JRNY หันไปให้ความสำคัญกับภาพมหภาคแทนการจ้องกราฟ โดยชี้ถึงข่าวสหรัฐฯ ที่เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ญี่ปุ่นที่เพิ่งประกาศยกเลิกนโยบายมูลค่า 110,000 ล้านดอลลาร์ การที่จีนอัดฉีดเม็ดเงินระดับ “ล้านล้านดอลลาร์” เข้าระบบ การที่แคนาดากลับมาใช้ QE อีกครั้ง และวงเงิน M2 ทั่วโลกกำลังขยายตัว
แม้สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สัญญาณกระทิงทันที แต่ประวัติศาสตร์ชี้ว่าคลื่นสภาพคล่องขนาดใหญ่ มักผลักเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงในท้ายที่สุด และรวมถึงคริปโตด้วย
ความตื่นตระหนกคือศัตรูของแผนระยะยาว
สิ่งที่น่าตกใจคือ 95% ของ Bitcoin ที่ซื้อในช่วง 155 วันที่ผ่านมาอยู่ในภาวะขาดทุน ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่เคยเกิดใกล้จุดต่ำสุดของวัฏจักรใหญ่ก่อนหน้า
JRNY แนะนำให้นักลงทุนใช้การ DCA ในช่วงที่ราคาร่วง และอย่าไล่เทรดราคา เพราะมักจบด้วยความเสียใจ
เขาสรุปไว้ชัดเจนว่า: “แผนระยะยาวที่มั่นคง มักชนะการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์แทบทุกครั้ง”

