<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ข่าวใหญ่สะท้านวงการ! เผยหลักฐานใหม่: ทรัมป์ใช้ตำแหน่งประธานาธิบดีกอบโกยเงินคริปโต!

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โลกคริปโตและวงการการเมืองสหรัฐฯ ต้องสั่นสะเทือน เมื่อมีรายงานฉบับใหม่จากคณะกรรมาธิการตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายเดโมแครต เปิดเผยหลักฐานที่บ่งชี้ว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจใช้ตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ในขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและครอบครัวในการสร้างรายได้มหาศาลจากธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซี โดยรายงานระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เพียงครึ่งปีเดียว ตระกูลทรัมป์สามารถกอบโกยเงินจากการขายคริปโตไปได้แล้วกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ!

รายงานฉบับนี้กล่าวหาว่า “วาระสนับสนุนคริปโต” (Pro-crypto agenda) ที่ทรัมป์พยายามผลักดันนั้น แท้จริงแล้วอาจเป็นเพียงฉากหน้าของแผนการสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัว โดยมีการเปิดเผยเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงนโยบายของรัฐบาลทรัมป์เข้ากับผลประโยชน์ทางธุรกิจของตระกูลทรัมป์อย่างน่าสงสัย หลักฐานเด็ดมัดตัวที่ถูกนำมาเปิดเผย ได้แก่ รายได้มหาศาลกว่า 463 ล้านดอลลาร์ที่มาจากการขายโทเค็น WLFI ของโปรเจกต์ World Liberty Financial ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวทรัมป์โดยตรง, การตั้งข้อสังเกตถึงความเชื่อมโยงระหว่างการให้อภัยโทษแก่บุคคลสำคัญในวงการคริปโต เช่น CZ อดีตซีอีโอของ Binance กับการลงทุนในธุรกิจของทรัมป์ในเวลาต่อมา, และการระงับการดำเนินคดีกับนักลงทุนที่มีความเชื่อมโยงกับต่างประเทศ เช่น Justin Sun ผู้ก่อตั้ง TRON ซึ่งถูกกล่าวหาว่าได้อัดฉีดเงินกว่า 175 ล้านดอลลาร์เข้าสู่โปรเจกต์ต่างๆ ของทรัมป์

ทางด้านโฆษกของทรัมป์ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดอย่างแข็งขัน โดยยืนยันว่านโยบายสนับสนุนคริปโตของทรัมป์ เช่น แนวคิดการสร้าง “คลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ” นั้น เป็นไปเพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมและรักษาความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแต่อย่างใด ในขณะที่ฝ่ายรีพับลิกันได้ออกมาประณามรายงานฉบับนี้ว่าเป็นเพียงเกมการเมืองของฝ่ายเดโมแครตที่ต้องการโจมตีทรัมป์ โดยชี้ว่ารายงานดังกล่าวขาดความน่าเชื่อถือและมีแรงจูงใจทางการเมืองแอบแฝง

รายงานฉบับนี้ได้จุดชนวนข้อถกเถียงครั้งใหญ่เกี่ยวกับจริยธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินนโยบายของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อนในโลกคริปโต ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของทรัมป์ในอนาคต ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งหรือไม่ก็ตาม

ที่มา: coinbureau