<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Strategy ไม่หวั่นต่อเสียงวิจารณ์ ซื้อ Bitcoin เพิ่ม 130 BTC พร้อมตั้งคลังเงินสำรอง 1.4 พันล้านดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อคืนวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา Michael Saylor ประธานบริษัท Strategy ได้ออกมาเปิดเผยบนโซเชียลมีเดียว่าพวกเขาได้ทำการเข้าซื้อ Bitcoin อีกครั้งหนึ่งท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน 

ข้อมูลเปิดเผยว่า Strategy ได้เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมเป็นจำนวน 130 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ $11.7 ล้าน ในราคาเฉลี่ยที่ $89,960  ส่งผลทำให้ในปัจจุบันบริษัทมีการถือครอง Bitcoin แล้วกว่า 650,000 BTC คิดเป็นมูลค่าทั้งหมดประมาณ $4.8 หมื่นล้าน และมีต้นทุนเฉลี่ยที่ $74,436 ต่อ Bitcoin

นอกจากนี้ Saylor ยังได้มีการเปิดเผยว่าทาง Strategy ยังได้มีการตั้งคลังสำรองเงินสดมูลค่ากว่า $1.44 พันล้าน เพื่อนำมาใช้จ่ายเงินปันผลและดอกเบี้ยต่างๆ รวมไปถึงทำหน้าที่เป็นสภาพคล่อง และเบาะกันกระแทกในยามที่ตลาดเกิดความผันผวน

สำหรับคลังเงินสำรองดังกล่าว ถือเป็น ‘แผนไม้ตาย’ ที่ Strategy เตรียมไว้ โดยจะระดมทุนผ่านรายได้จากการขายหุ้นในตลาด เป้าหมายสำคัญคือ การสร้างหลักประกันในการจ่ายเงินปันผลให้ครอบคลุมระยะเวลาอย่างน้อย 12 ถึง 24 เดือนหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้การบริหารจัดการเงินก้อนนี้จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท ซึ่งอาจปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะตลาดและข้อกำหนดด้านเงินทุน

Saylor ขยายความว่า การจัดตั้งคลังสำรองนี้คือ วิวัฒนาการขั้นถัดไปที่จะผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นเป็น ‘Bitcoin Treasury Company’ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเกราะป้องกันชั้นดีในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

อย่างไรก็ตาม Strategy ได้ปรับลดเป้าหมายราคา Bitcoin ในปีนี้ลงมาอยู่ที่ช่วง $85,000 – $110,000 ซึ่งหากราคาปิดปี 2025 อยู่ในกรอบนี้ บริษัทประเมินว่ารายได้จากการดำเนินงานจะผันผวนตั้งแต่ขาดทุน 7.0 พันล้านดอลลาร์ ไปจนถึงกำไร 9.5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอาจอยู่ระหว่างขาดทุน 5.5 พันล้านดอลลาร์ ถึงกำไร 6.3 พันล้านดอลลาร์

ทว่า ความท้าทายใหญ่กำลังรออยู่ในเดือนมกราคม 2026 ท่ามกลางกระแสข่าวลือหนาหูว่าบริษัทอาจถูกถอดออกจากดัชนีสำคัญ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนมหาศาลไหลออก และทำลายความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุนสถาบันอย่างรุนแรง”

ที่มา : Cryptonews