Citadel Securities ได้ออกมาเรียกร้องยื่นจดหมายต่อ SEC ให้บรรดาแพลตฟอร์ม DeFi ที่เสนอขายหุ้นสหรัฐฯแปลงโทเคน ต้องถูกกำกับดูแลภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์และไม่ควรที่จะได้รับการผ่อนผันจากนโยบายของ SEC ที่จะให้การยกเว้น
พวกเขาให้เหตุผลโต้แย้งว่าแพลตฟอร์ม DeFi เข้าข่ายเป็นทั้ง “ศูนย์ซื้อขาย” หรือ “โบรเกอร์ ทำให้ต้องปฏิบัติตามกฎหากคิดที่จะเสนอขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ซึ่งถ้าหาก DeFi ได้รับอภิสิทธิ์ข้อยกเว้นจะทำให้เกิดข้อกังขาและเกิด 2 มาตรฐาน ทั้งๆ ที่หลักทรัพย์ที่ซื้อขายเป็นประเภทเดียวกัน
อย่างไรก็ตามคำร้องของทาง Citadel ถูกโจมตีอย่างหนักจากผู้สนับสนุนคริปโต โดยมองว่าพวกเขากำลังต่อต้านนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยขจัดตัวกลางกระหายเลือดที่อยู่ในระบบการเงินในขณะนี้
ขณะเดียวกัน Hayden Adams ผู้ก่อตั้ง Uniswap กล่าวว่าเขาไม่แปลกใจเลยและเป็นธรรมดามากที่เจ้าพ่อตลาด TradFi สีเทาจะไม่ชอบความโปร่งใส่แบบโอเพ่นซอร์ส หรือเทคโนโลยีแบบ P2P ที่ลดกำแพงกั้นลง
ส่วน Summer Mersinger ซีอีโอของ Blockchain Association ระบุว่าการกำกับดูแลนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ในรูปแบบเดียวกับการเป็นตัวกลางในระบบการเงิน จะทำให้สหรัฐฯเสียเปรียบอย่างมาก และขับไล่นวัตกรรมดีๆ ไปยังประเทศอื่น

เธอเรียกร้องให้ทาง SEC ปัดตกข้อเสนอดังกล่าวออกไป และให้มุ่งเน้นการกำกับดูแลไปยังตัวกลางที่แท้จริงซึ่งอยู่ระหว่างนักลงทุนและสินทรัพย์ที่แท้จริงจะดีเสียกว่า
ทั้งนี้ สมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และการเงิน (Securities Industry and Financial Markets Association – SIFMA) ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าในอุตสาหกรรม ได้ออกแถลงการณ์ที่คล้ายกันเมื่อวันพุธ โดยสนับสนุนนวัตกรรม แต่ยืนยันว่าหลักทรัพย์ในรูปแบบโทเคน จะต้องอยู่ภายใต้การคุ้มครองนักลงทุนพื้นฐานแบบเดียวกับระบบการเงินดั้งเดิม
SIFMA นำเหตุการณ์ Flash Crash เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมขึ้นมายกตัวอย่างว่าทำไมการกำกับดูแลจึงจำเป็น เพราะพวกเขาต้องปกป้องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงตัวนักลงทุน
นอกเจากนี้ สหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์โลก (World Federation of Exchanges) ซึ่งเป็นกลุ่มที่แทนตลาดหลักทรัพย์หลักๆ ยังได้เรียกร้องให้ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ยกเลิกแผนการที่จะให้ ‘ข้อยกเว้นด้านนวัตกรรม’ แก่บริษัทคริปโตที่ต้องการเสนอขายหุ้นในรูปแบบโทเคน ด้วยเช่นกัน ทำให้ในตอนนี้ประเด็นดังกล่าวเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นมากกว่าเดิม
ที่มา : Cointelegraph

