<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CFTC ไฟเขียว “สินทรัพย์ดิจิทัลโทเคไนซ์” ใช้ค้ำประกัน ในตลาดอนุพันธ์สหรัฐฯ ได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คณะกรรมการกำกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯ (CFTC) ได้ประกาศเปิดตัว โปรแกรมทดลองใหม่ ซึ่งอนุญาตให้มีการใช้ สินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกแปลงเป็นโทเคน (Tokenized Digital Assets) เป็นหลักประกัน (Margin Collateral) ในการซื้อขายอนุพันธ์ของสหรัฐฯ ได้เป็นครั้งแรก

Caroline Pham รักษาการประธาน CFTC (หน่วยงานกำกับดูแลตลาดอนุพันธ์ของสหรัฐฯ) ระบุว่า เป้าหมายหลักคือ การดึงกิจกรรมซื้อขายคริปโตกลับเข้ามาอยู่ในระบบที่ถูกกำกับดูแลของสหรัฐฯ แทนที่จะให้นักลงทุนไปซื้อขายบนแพลตฟอร์มนอกประเทศ

โดยโปรแกรมนี้จะอนุญาตให้ใช้ Bitcoin, Ethereum, และ USDC เป็นหลักประกัน ได้ในช่วง 3 เดือนแรก และได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัย สำหรับโบรกเกอร์อนุพันธ์ (FCMs) ที่รับสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้เป็นหลักประกัน เช่น ต้องมีการรายงานผลเป็นประจำทุกสัปดาห์ และมีระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัญหา 

นอกจากนี้ CFTC ยังได้ให้แนวทางการใช้ โทเคไนซ์ Real-World Assets (RWA) เช่น พันธบัตรรัฐบาล และกองทุนตลาดเงิน โดยเน้นประเด็นด้านการดูแลสินทรัพย์ (custody), ความปลอดภัย, การประเมินมูลค่า และความเสี่ยงของระบบ แต่ยังคงยึดมั่นในนโยบายที่ “ไม่เลือกข้างเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง” 

เพื่อผลักดันโครงการใหม่นี้ CFTC จึงได้ ยกเลิกคำแนะนำที่ออกไว้เมื่อปี 2020 ซึ่งเคยสั่งห้ามโบรกเกอร์รับสินทรัพย์ดิจิทัลมาเป็นหลักประกัน 

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดว่า โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเกิดขึ้นของ การโทเคไนซ์ และการบังคับใช้ กฎหมาย GENIUS Act ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายนี้ได้มอบกรอบ การกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ใช่หลักทรัพย์ และเพิ่มอำนาจให้กับ CFTC

ผู้บริหารของ Coinbase มองว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ CFTC นั้น “ช่วยเปิดเพดานด้านนวัตกรรม” ในอุตสาหกรรมคริปโตที่เคยถูกจำกัดอย่างไม่จำเป็นมาก่อน

การที่อนุญาตให้ใช้ สินทรัพย์ดิจิทัลโทเคไนซ์ เป็นหลักประกันในการซื้อขายได้นั้น มีส่วนช่วยอย่างมากในการ เพิ่มสภาพคล่องในตลาด และเป็นกลไกสำคัญในการ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากสถาบันการเงิน ให้เข้ามาในตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น แทนที่จะไปซื้อขายนอกประเทศ

ซึ่งมาตรการนี้ยังช่วยเพิ่มความโปร่งใส ความปลอดภัย และยกระดับมาตรฐานการรายงานข้อมูลด้วย 

นักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า หน่วยงานกำกับดูแลเริ่มเปิดรับ และยอมรับโลกการเงินดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ และถือเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างโลกการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) กับโลกของคริปโตเคอร์เรนซี

ที่มา : cryptopolitan