<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เพื่อนบ้านขยับ! เจ้าชายยะโฮร์ลุยเอง เปิดตัว Stablecoin ผูกริงกิต หวังปฏิวัติการเงินอาเซียน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วงการสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องจับตามองครั้งสำคัญ เมื่อเพื่อนบ้านใกล้ชิดอย่างมาเลเซียเริ่มขยับตัวแรง โดย ตุนกู อิสมาอิล อิดริส (Tunku Ismail Idris) มกุฎราชกุมารแห่งรัฐยะโฮร์ และพระราชโอรสองค์โตในสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ได้ประกาศเปิดตัว “RMJDT” โทเคน Stablecoin ที่ตรึงมูลค่า 1:1 กับสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย ผ่านบริษัท Bullish Aim ภายใต้การกำกับดูแลในโครงการ Regulatory Sandbox สำหรับการทดสอบนวัตกรรมการชำระเงินข้ามพรมแดน

ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงกระแสความตื่นตัวของการใช้ Stablecoin ที่กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค โดยรายงานจาก Chainalysis ปี 2025 ระบุว่าปริมาณธุรกรรมในภูมิภาคนี้เติบโตขึ้นถึง 45% เมื่อเทียบรายปี การเปิดตัว RMJDT จึงถือเป็นการเดินตามรอยความสำเร็จของโครงการยักษ์ใหญ่ในเพื่อนบ้านอย่าง Project Orchid ของสิงคโปร์ และโครงการ e-HKD ของฮ่องกง ที่ต่างมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบการเงินดิจิทัล

เป้าหมายหลักของ RMJDT ถูกวางไว้เพื่อเจาะกลุ่มการโอนเงินระหว่างประเทศ (Remittances) และการชำระเงินของร้านค้า (Merchant Adoption) ซึ่งนัยสำคัญทางยุทธศาสตร์คือความพยายามในการลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (De-dollarization) ในการค้าระหว่างประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหากทำสำเร็จจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างชาติสมาชิกอาเซียนได้อย่างมหาศาล

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญที่ RMJDT ต้องเผชิญคือการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความโปร่งใสของสินทรัพย์สำรอง (Reserves) ที่นำมาค้ำประกันค่าเงิน รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มบล็อกเชนอื่นๆ (Interoperability) อย่างระบบ Zetrix ที่กำลังเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาค เพื่อให้เกิดการใช้งานในวงกว้างได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงโครงการทดลองในกระดาษ

การก้าวเข้ามาเล่นในสนามคริปโทฯ ของราชวงศ์ระดับสูงเช่นนี้ ส่งสัญญาณชัดเจนว่ามาเลเซียกำลังเอาจริงเอาจังกับการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กระตุ้นให้ประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียน รวมถึงประเทศไทย ต้องเร่งปรับตัวและพัฒนานโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองให้ทันต่อการแข่งขันที่กำลังดุเดือดขึ้นทุกขณะ

ที่มา: @coinbureau